rss
Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สั่งซื้อชุดสปริงเกอร์มาแล้วครับ

เมื่อสองสามวันที่แล้วหาข้อมูลเรื่องสปริงเกอร์ดูรู้สึกสนใจครับ เรื่องท่อพีอีและก็พวกมินิสเปรย์หรือว่ามินิสปริงเกอร์ก็เลยลองสั่งซื้อมาชุดนึงครับ

ผมซื้อ ชุดหัวฉีดสเปรย์มาชุดนึง และก็หัวฉีดอีก2แบบ และก็สปริงเกอร์แบบป๊อปอัพตัวนึง ราคารวมแล้วก็ 504 บาท (รวมค่าจัดส่งแล้ว 100 บาท)  ที่ผมซื้อชุดหัวฉีดสเปรย์ก็เพราะว่ามันได้อุปกรณ์ที่จำเป็นครบเลยครับลองดูรายชื่ออุปกรณ์ในชุดเลยครับ เดี๋ยวของมาจะเอารูปมาให้ดูกันครับและก็มาลองเล่นพร้อมกัน ของน่าจะมาวันนี้ละครับ

ปรากฏว่ายังไม่มาครับเชคในเนตมันเข้าเตรียมการนำจ่ายวันเสาร์ วันนี้วันจันทร์น่าจะมาเย็นนี้หละครับผม เดี๋ยวมาเล่นกัน(ขนาดน้ำท่วมไม่มีที่ปลูกหญ้านะเนี่ย)

ชุดหัวฉีดสเปร์ยเริ่มต้น ติดตั้งง่าย
สามารถทำได้ด้วยตนเอง  เหมาะสำหรับ
สวนขนาดเล็ก
ในชุดประกอบด้วย ท่อพีอี 12 มม. 15 เมตร

หัวสเปรย์พร้อมขาปัก 360 องศา 5 ชุด 
ตรงเกลียวนอก 2 ตัว
 งอ 1 ตัว
ข้อต่อสายไมโคร 5 ตัว
คลิ๊บล๊อคท่อ 4 ตัว
ปิดปลาย 1 ตัว
ตัวเจาะท่อ 1 ตัว
ตัวอุดรูเจาะผิด 3 ตัว
สายไมโคร 2 เมตร
น้ำหนัก : 1000 กรัม
สนใจก็ซื้อที่เวปนี้นะครับผม: http://www.sprinkler-thai.com/

แล้วก็มาจริงๆครับมาแกะกล่อง เชคของดูพร้อมๆกันเลย

สภาพการแพค การบรรจุก็ดีครับ แน่นหนามั่นคงดี การจ่าหน้าพัสดุถึงผู้รับก็ชัดเจนมาตรฐานครับ

พอแกะกล่องออกมาก็เป็นไปตามคาดครับว่าเป็นสินค้าแบบชุดสำหรับศึกษาทดลอง และก็ประกอบใช้ง่ายซึ่งผมชอบสินค้าแนวนี้ครับนอกจากจะได้ใช้แล้วยังได้ความรู้ไปด้วย

รูปนี้เป็นอุปกรณ์ทั้งหมดของชุดหัวฉีดสเปรย์ครับ หลักๆก็มีท่อพีอี สายไมโคร และก็ท่อข้อต่อหัวสเปรย์ ตัวเจาะท่อพีอี ฯลฯ จะอยู่ในถุงเดียวกัน เดี๋ยวเอาไว้ดูกันตอนหน้าครับ

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

ที่เจาะรูท่อพีอี

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

ตัวอย่างการต่อสปริงเกอร์จิ๋วกับท่อพีอี

ต่อเนื่องจากเรื่องของท่อพีอีนะครับ ที่บอกว่าสะดวกวันนี้เรามาดูกันครับว่ามันสะดวกยังไง เวลาต่อสปริงเกอร์ทำอย่างไรไปดูกันเลยครับ

ท่อพีอีนั้นมีอุปกรณ์ตัวนึงที่จำเป็นครับนั่นคือตัวเจาะท่อพีอี

ทำความรู้จักท่อพีอี

ท่อพีอี

ท่อพีอีจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ท่อ HDPE และ ท่อ LDPE
ท่อ LDPE เป็นท่อที่มีขนาดเล็กตั้งแต่ 16 มม.  20 มม. และ 25 มม.  โดยทั่วไปนิยมใช้ในงานเกษตร
ซึ่งเป็นท่อที่ไม่ต้องรับแรงดันมากนัก เพราะต่อเชื่อมมาจากท่อเมนที่มีขนาดใหญ่ แรงดันส่วนมากจะตกอยู่กับท่อเมน
ท่อเมนจึงต้องเป็น HDPE ท่อHDPE เป็นท่อที่มีขนาดตั้งแต่ 32 มม. ขึ้นไป จะแบ่งเป็น PN 4 , PN 6 , PN10 
PN หมายถึง การรับแรงดันของท่อ เช่น PN 4 รับแรงดันได้ 4 บาร์ PN 6 รับแรงดันได้ 6 บาร์ ตัวกำหนดการเลือกท่อ
คือปั๊ม และหัวสปริงเกลอร์ หัวสปริงเกลอร์แต่ละรุ่นจะต้องการแรงดันใช้งานแตกต่างกันไป
อย่างเช่น 2 บาร์   4  บาร์  6 บาร์ จึงต้องเลือกขนาดปั๊มที่สามารถสร้างแรงดันได้เท่ากันที่หัวต้องการ
และต้องเลือกขนาดที่ให้ทนได้แรงดันได้มากกว่าแรงดันใช้งานของปั๊มและหัว เพื่อป้องกันการเสียหายของท่อ  ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sprinkler-thai.com/


ท่อพีอีนี้ผมเองก็ยังไม่เคยใช้แต่ว่าเท่าที่หาข้อมูลมามันใช้งานง่ายครับ สะดวก และเหมาะมากๆสำหรับการติดตั้งสปริงเกอร์ และระบบน้ำใช้ในการเกษตร

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

สปริงเกอร์แบบพ่นหมอก

ผมรู้สึกสนใจสปริงเกอร์พ่นหมอกเหมือนกันครับเพราะว่าได้ดูคลิปของยูทูบที่น้องคนนึงทำสปริงเอกร์พ่นหมอกแบบง่ายๆให้ดู แต่พอไปทำจริงๆแล้วไม่ง่ายอย่างที่คิดแลยครับ

จากคลิปที่ผมถ่ายมาให้ดูอาจจะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นะครับ แต่ว่าบอกได้เลยว่ามันเป็นแค่ฝอยเท่านั้น ยังไม่ถึงกับเป็นหมอกครับ และก็เกิดสนใจตอนนี้ผมเริ่มมองหาอะไรที่จะมาทำสปริงเกอร์แบบหมอกบ้างแล้วครับแต่ก็ยังไม่เวิร์ค

ล่าสุดก็ลองเสิร์ทดูในกูเกิลก็เจอแบบนึงที่มีคนนำจุกน้ำปลามาเจาะรูด้วยเข็มหมุดรนไฟแล้ก็เสียบเข้ากับท่อพีวีซีทากาว ผมอ่านเท่านี้ก็รู้สึกนึกภาพว่าน่าจะเวิร์คเลยครับ แต่เสียดายไม่มีภาพให้ดู ผมเองก็อยากเห็นภาพเหมือนกัน
ล่าสุดเสิร์ทไปเจอสปริงเกอร์จากเวปนี้ครับ http://www.sprinkler-thai.com/

มีให้เลือกเพียบเลยดูแล้วไม่อยากทำเองเลยครับก็เล่นเจออย่างตัวละ 10 บาทลองดูครับน่าสนใจและน่าซื้อมากๆสำหรับคนที่รักสนามหญ้า ผมเอาตัวอย่างที่น่าสนใจบางส่วนมาให้ดูกันครับ

หัวครึ่งวงกลม เรนดรอป - คลิกที่นี่เพื่อดูรูปภาพใหญ่

หัวครึ่งวงกลม เรนดรอป ตัวนี้ตัวละ 20 บาทเอง นอกจากนี้ยังมีรุ่นอื่นๆอีกนะครับ เช่น 90 องศา 360 องศา ตัวละ 10-20 บาทเอง

ชุดพ่นหมอกสี่ทาง แบบปักดิน

ราคา 85.00 บาท
ชุดพ่นหมอก 4 ทาง แบบปักดิน
เสาสูง 40 ซม. สายยาว 60 ซม.
ปริมาณน้ำ 36 ลิตร/ชั่วโมง
ใช้ปักดิน น้ำจะกระจายออกสี่ด้าน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับสนาม  
ตัวนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆครับผม
นอกจากนี้ผมเองยังเเอบติดใจอีกหลายอย่างครับ เลือกไม่ถูกและคิดหนักเลยครับว่าจะซื้ออะไรก่อนดี อยากได้ไปหมดครับผมตอนนี้

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

สปริงเกอร์ขวดน้ำ

สวัสดีครับตอนนี้ผมปลูกหญ้าไว้กระจุกนึงปรากฏว่าไม่ค่อยงามโตช้าเต็มช้า อาจจะเป็นเพราะได้น้ำน้อยไปก็ได้วันนี้เลยเอาความรู้จากยูทูปมาทำสปริงเกอร์หรือว่าสเปรย์ขวดน้ำเอาไว้รดต้นไม้อย่างง่ายๆครับ

ดูคลิปที่ผมทำตามก่อนเลยครับ




พอดูเห็นตอนเเรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรครับแต่พอได้ดูดีดีปรากฏว่าข้อดีของมันคือมันให้น้ำออกมาเป็นละอองละเอียดมากๆซึ่งแน่นอนว่าหญ้านวลน้อยของผมชอบมันแน่ๆ ว่าเเล้วผมก็ทำเลยครับ

ไม่มีอะไรเลยแค่ขวดน้ำ 1.25 หรือ 1.5 ก็ได้ หรือจะเป็นขวดโออิชิก็ได้ เพราะว่าขวดพวกนี้เนื้อจะเเข็งว่าขวดน้ำโพลาลิสที่เป็นพลาสติกสีขาวครับ จะได้ทนเเรงดันน้ำได้ดีไม่บูดบวมครับเวลาอัดน้ำเข้าไป

ที่สำคัญจะอยู่ตรงข้อต่อสายยางเข้ากับปากขวดต้องทำให้แน่นด้วยและก็ถอดสายยางไปใช้อย่างอื่นได้ด้วย ตอนเเรกก็นึกไม่ออกครับว่าจะทำยังไงสุดท้ายก็ซื้อข้อต่อเกลียวที่อีกด้านเป็นที่เสียบสายยาง มันจะหลวมหน่อยๆ ผมเอาด้านใส่สายยางเข้าขวดนะครับเพราะมันจะยาวดีมีพื้นที่ให้คับขวดได้มากกว่าอีกด้านที่เป็นเกลียวครับ

แต่ว่ายังไงอีกด้านก็เสียบสายยางได้เเน่นมากเหมือนกันครับไม่ต้องกลัวว่าจะหลุด

สิ่งสำคัญอีกอย่างนั้นคือการเจาะรูครับ เท่าที่ผมลองแล้ว
1.ใช้เข็มหมุดเจาะ น้ำน่าจะออกเป็นละอองถ้าหากว่าแรงดันน้ำแรงๆ ลองไปดูครับว่าเป็นอย่างไร




แน่นอนว่ามันยังไม่เป็นละอองเท่าที่ต้องการ เป็นได้แค่ฝอยเล็กๆเท่านั้น ไว้ยังไงจะแก้ไขแล้วอัพให้ดูกันอีกครับ

ปลูกหญ้านวลน้อยชั่วคราว

วันนี้เอาภาพหญ้านวลน้อยที่ผมดึงมาจากน้ำท่วมหน่อยนึงเอามาปลูกหนีน้ำบนโคกหลังบ้านครับ นี่เป็นรูปหลังจากปลูกได้เกือบเดือนแล้วผมรู้สึกว่ามันฟื้นช้ามากๆ และก็ไม่งามเหมือนตอนที่ปลูกในบ้านครับไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน


จริงๆแล้วผมกะว่าถ้ามันเต็มและเเน่นเมื่อไหร่ผมจะเพาะไปเรื่อยๆ ให้ได้พื้นที่เยอะๆเท่าที่จะเยอะได้เลย ตอนน้ำลงจะได้เอาลงไปปลูกในบ้านไปเพาะในบ้านต่อ แต่ว่ามันดันไม่โต ไม่เต็ม ไม่เจริญเร็วอย่างที่คิดครับ

ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าเป็นเพราะอะไร ปุ๋ยผมก็ให้ไปสองครั้งแล้ว ฝนก็ตกเกือบทุกวันเเทบจะไม่ต้องรดน้ำ แดดผมคิดว่าก็น่าจะเพียงพอ สิ่งที่เเตกต่างกันระหว่างพื้นที่ปลูกนี้กับที่ในบ้านผมคือสภาพดินบนนี้ค่อนข้างจะเป็นดินเหนียว เวลาเเข็งจะค่อนข้างเเข็งมาก เรียกว่าพรวณดินไม่ได้เลย

เท่าที่ได้สังเกตุเวลาเปียกก็จะเละมาก เวลาแห้งคือถ้าเเดดออกสักครึ่งวันก็เเห้งเเข็งแล้ว

สิ่งที่ผมจะทดลองต่อไปก็คือจะรดน้ำตอนกลางวันอีกสักครั้งนึงเพื่อให้ดินชุ่มตลอดวัน ไม่ปล่อยให้ดินแข็งเกินไปยังไงก็ติดตามกันให้ดีครับว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป สำหรับโปรเจคช่วงน้ำท่วมนี้

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

น้ำยังไม่ลง

สวัสดีครับน้ำท่วมสนามหญ้าของผมไปเกือบเดือนนึงแล้ว ถึงวันนี้ฝนก็ยังตกมาเรื่อยๆนะครับ โดยเฉพาะตอนเย็นๆ ค่ำๆ ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งมองน้ำไปก่อน ผมคงต้องรอไปอีกนู่นแหละครับประมาณเดือนธันวาหรือว่ามกรานู่นหละครับกว่าจะได้ปลูกหญ้าใหม่อีกที


ตอนนี้ผมเอาหญ้าประมาณ 1 ตารางเมตรขึ้นไปปลูกไว้บนโคกหลังบ้านและก็เฝ้าสังเกตดูเอาไว้จะเล่าให้ฟังในวันหลังนะครับ ตอนนี้สถานการณ์น้ำก็เป็นเหมือนที่เห็นครับ ฝนตกทุกวันตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ต้นหญ้าที่อื่นไม่ว่าที่ไหนก็คงจะเขียวขจีสวยงาม มีแต่บ้านผมเท่านั้นแหละครับที่น้ำท่วมแบบนี้


เวลาผ่านไปเรื่อยๆบางทีมันก็เสียดายเหมือนกันนะครับ บางทีก็นึกเหมือนกันว่าถ้าน้ำลงจะปลูกหญ้าอีกมั้ยเพราะว่ามันก็เหนื่อยเหมือนกันนะตอนที่ปรับดิน และก็ปักหญ้าที่ละต้นๆ

พูดถึงดินที่มากับน้ำวันนี้ผมลองลงไปเหยียบพื้นที่เป็นปูนดูปรากฏว่าไม่ค่อยมีดินเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือว่าเดือนนึงอาจจะเป็นเวลาที่น้อยไปที่ดินจะตกตะกอน อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ นี่ถ้าน้ำลงแล้วผมไม่ได้ดินเพิ่มนี่คงเซ็งมากๆครับ

วันนี้ไม่มีอะไรจะอัพเดทก็เลยถ่ายรูปสภาพสนามหญ้าของผมมาให้ดูกันครับ จะเรียกว่าสนามหญ้าได้มั้ยเอ่ย

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

ไร่หญ้านวลน้อย

สวัสดีครับวันนี้จะพาไปดูบรรยากาศในการทำไร่หญ้าหรือว่านาหญ้านวลน้อยกัน ผมเองก็ไม่ได้เคยไปดูที่ที่เขาทำกันจริงๆหรอกนะครับแต่เชื่อว่าที่นั่นอากาศคงจะดีมากๆได้เห็นหญ้าเขียวเต็มตาไปหมด

แรกเริ่มก่อนที่ผมจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับการปลูกหญ้านวลน้อยของผมนั้นผมก็ได้ทดลองปลูกทดลองเพาะตามข้อมูลที่หาได้ในอินเตอร์เน็ตนี่แหละครับ อ่านไปก็ติ่นเต้นไปเพราะว่าเท่าที่อ่านดูรู้สึกว่าการเพาะหญ้านั้นมันง่ายมากๆจนอยากลองทำตามที่ไร่หญ้าที่เขาปลูกขายทำกันบ้าง


เรื่องเทคนิคการปลูกของเกษตรกรที่ปลูกหญ้าเป็นอาชีพนั้นผมไม่ขอพูดถึงนะครับ วันนี้จะพาเดินดูรอบๆบริเวณที่ทำนาหญ้ากันดีกว่าว่าเเถวนั้นบรรยากาศมันดียังไง พอเห็นภาพเเล้วอาจจะอยากย้ายบ้านไปอยู่ตรงนั้นก็ได้ จะได้ไม่ต้องปลูกหญ้าดูเอง ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยใช่มั้ยครับ

ลองดูบรรยากาศในนาหญ้าของแต่ละที่กันได้เลยครับ

บางที่ก็จะปลูกแบบผสมผสานนะครับคือรอบๆนั้นมีต้นไม้อื่นด้วย ไร่แบบนี้ก็น่าเดินเที่ยวครับอย่างภาพด้านบนเลยครับจะเห็นว่ามีทัวร์มาลงด้วย จากข้อมูลทัวร์นี้มาลงเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการทำเกษตรนี่เเหละครับ



ส่วนภาพนี้เป็นบรรยากาศของไร่หญ้าน้องปลื้มนะครับ เราจะเห็นโฆษณาไร่หญ้าน้องปลื้มเยอะมากๆในอินเตอร์เน็ตครับ เขาเลือกมุมที่หญ้าเขียวดีนะครับแต่เสียดายว่าภาพเล็กไปหน่อยครับ สนใจก็ติดต่อตามภาพได้เลยครับ

ไร่หญ้าเกษมครับ ภาพนี้น่าจะถ่ายช่วงเช้าๆ หรือว่าสายๆ ครับเพาะว่ามุมของแดดจะองศาต่ำทำให้หญ้าดูเขียวอ่อนจนเกือบเหลืองทองก็เป็นช่วงเวลาที่ถ่ายภาพสนามหญ้าหรือสวนต่างๆได้สวยอีกเวลานึงครับ

เท่าที่ดูมานะครับจะสังเกตุเห็นได้ว่าพื้นที่ที่ปลูกหญ้าทั้งหมดนั้นเรียบเสมอกันสวยงามมากๆ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่ามีการปรับพื้นให้เรียบก่อนโดยใช้กรวดอัดกันจนเเน่นคล้ายพื้นปูนเพื่อเวลาเเซะออกจะได้สะดวกด้วยนี่หละครับ เวลาปลูกใหม่ก็เทเลนมาแล้วก็เอาหญ้าปักเลย ผมเองก็พยามทำที่บ้านเหมือนนาหญ้าเล็กๆทดลองครับ ไว้น้ำลงแล้วจะลุยใหม่ครับผม

วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

แหล่งหญ้านวลน้อย

เราจะหาหญ้านวลน้อยได้จากไหน คำถามนี้เคยเกิดขึ้นกับผมเหมือนกันตอนเเรกผมไม่รู้จริงๆ ผมนึกว่าจะต้องไปซื้อแต่ในกรุงเทพหรือว่าต่างจังหวัดที่เขาทำนาหญ้ากัน แต่บังเอิญไปเดินตลิดนัดต้นไม้แถวบ้านปรากฎว่าเจอร้านนึงขายหญ้านวลน้อย หญ้ามาเล ผมเห็นเเล้วรีบเดินเข้าไปถามเลยว่า ขายยังไง เอามาวันไหน จะมาอีกหรือปล่าว และก็อีกมากมาย

เหมือนคนไม่เคยพบเคยเจอเลยผมตอนนั้น เดี๋ยวนี้เท่าที่ผมหาข้อมูลจากกูเกิลดูก็พบว่ามีการทำนาหญ้ากันเยอะครับเเถบปริมณทลและจังหวัดใกล้เคียงก็หันมาทำนาหญ้ากันเยอะเพราะเขาว่ามันโตเร็ว โตง่าย ไม่มีวัชพืชหรือว่าโรคมากนัก ทำให้ไม่ต้องดูแลมากมายอะไร เรียกว่าปลูกกันได้ทั้งปีเลย

หากว่าใครชอบหญ้านวลน้อยหรือว่าหญ้าอื่นๆและอยากเห็นมันเขียวขจีต่อหน้าคุณทุกเช้าก็อย่าลังเลที่จะปลูกมันเลยครับ ไปตามตลาดนัดต้นไม้แถวบ้านก็มีขายเเล้วเดี๋ยวนี้ ถ้าเป็นร้านต้นไม้ก็สั่งซื้อเขาเลย ผมเคยถามร้านต้นไม้ เขาบอกว่าไม่ได้เอามาเพราะเอามาเก็บไว้นานไม่ได้ ถ้าจะเอาก็สั่งได้ ราคาก็ไม่เเพงมากครับ


ตามตลาดนัดถ้าเราไปเดินเจอต้นไม้ต่างๆเขาก็เอามาจากจตุจักรทั้งนั้นแหละครับ บ้างก็ไปเอามาจากสวนตรงๆบ้างถ้าหากว่าไกล้กับเเถวนั้น ยิ่งถ้าใครอยู่ตามจังหวัดที่ทำนาหญ้ายิ่งสบายเลยครับดีไม่ดีเอารถไปซื้อเองที่ไร่หญ้าเลยยิ่งได้ราคาถูกครับ

สำหรับผมเองผมก็ไม่เกี่ยงหรอกครับว่าหญ้าที่เอามาขายจะราคาเท่าไหร่เพราะว่าผมไม่ได้ซื้อเยอะอยู่แล้วอย่างมากก็ซัก 5 เมตรหรือ 10 เมตร แล้วก็เอามาเพาะเอา ไม่รู้สิอาจจะบอกว่าขี้งกก็ได้ แต่ผมรู้สึกว่าเอามาปลูกเเล้วเต็มเลยมันไม่มัน รู้สึกว่าอยากเห็นเเบบที่ค่อยๆเต็มเองจนเเน่นด้วยน้ำมือเรามากกว่า อันนี้ก็ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ใครชอบยังไงก็ลุยได้เลยครับ ความสุขของเรานี่นา นะ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

เทคโนโลยีกับสนามหญ้า

สวัสดีครับที่หน้านี้ผมจะรวมเอาเทคโนโลยีที่จะทำให้เราสนุกกับสนามหญ้าหรือว่าช่วยให้เราจัดการกับสนามหญ้าของเราได้ง่ายขึ้นครับรับรองว่าบางอย่างอาจจะไม่เคยเห็นกันก็ได้ครับ

เครื่อง-อุปกรณ์ตัดหญ้า
มาเริ่มกันที่รถตัดหญ้าเเบบใช้เเรงคนเข็นครับสุดยอดผมอยากได้มากๆตัวนี้



เป็นไงบ้างครับดูแล้วสำหรับคนชอบตัดหญ้าทำสวนต้องบอกว่าหลงรักเลย เปิดตัวด้วยประตูค่อยๆเปิดออกเหมือนโรงเก็บรถเเข่งเลยก็แอบมีมุขเล็กๆน้อยๆไว้ตอนต้น และพอได้เห็นผู้หญิงเข็นออกไปตัดหญ้าก็ดูลื่นไหลครับ สำหรับผมแล้วถือว่าเครื่องนี้โดนใจจริงๆ ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดหรือค้นหาเพิ่มเติมได้นะครับถ้าอยากเป็นเจ้าของส่วนผมเอง อยากได้แต่ต้องรอก่อนครับ เพราะกระเป๋าแฟบเหลือเกินตอนนี้

เครื่อง-อุปกรณ์รดน้ำ-สปริงเกอร์

เรื่องสปริงเกอร์ก็มีอะไรให้เล่นสนุกได้ไม่เเพ้รถตัดหญ้าเลยครับ

มาดูสปริงเกอร์แบบเดินได้กันครับเท่าที่ผมเข้าใจน่าจะใช้เเรงน้ำขับเคลื่อนเฟืองส่งกำลังหมุนสปริงเกอร์ด้านบนและขณะเดียวกันก็ไปหมุนเฟืองล้อให้รถสปริงเกอร์คันนี้ค่อยๆวิ่งไปอย่างช้าๆ เป็นไอเดียที่สุดๆครับ น่าลองทำเหมือนกันนะผมว่า จะได้ไม่ต้องติดสปริงเกอร์หลายตัวให้เกะกะสนามด้วย ลองไปดูกันเลยครับ




มาดูสปริงเกอร์ยี่ห้อหนึ่งครับไม่เกะกะดี ให้น้ำออกมาเป็นละอองสุดยอดครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าที่ไทยเรามีขายหรือปล่าวไว้ว่างๆต้องไปเดินหาดูบ้างเเล้วครับ




อันนี้สุดยอดเหมือนกันครับถ้าตอนนี้ใครมีขวดน้ำดื่มอยู่ก็ลองทำได้เลย อันนี้มีพริตตี้น้อยมาสาธิตให้ชมกันด้วยครับ แต่เท่าที่ดูแล้วน้ำประปาที่ประเทศเขาน่าจะเเรงมากครับน้ำถึงได้เป็นละอองขนาดนั้นได้


วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

ข้อมูลหญ้านวลน้อย

ผมเองก็เพิ่งมารู้จักหญ้านวลน้อยครับเพราะว่าไม่เคยสนใจเรื่องการจัดสวนทำสวนอะไร แต่พอทำแล้วติดแหง็กเลยครับ มันมีความสุขและชื่นใจแบบบอกไม่ถูกจริงๆ ภาพนี้เป็นหญ้านวลน้อยในสวนเล็กๆของผมครับ หญ้ายาวไม่ค่อยเท่ากันเพราะตัดไม่พร้อมกันครับ






เห็นรูปภาพและรู้จักหญ้านวลน้อยแล้วเชื่อว่าทุกคนต้องร้องอ๋อเพราะเคยเห็นตามที่ต่างๆมามากแล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้วก็รู้จักกันให้ละเอียดอีกนิดครับ

ชื่อวิทยาศาสตร์:


Zoysia matrella Merrill

ชื่อวงศ์: GRAMINEAE

ชื่อสามัญ: Manila Grass

ชื่อท้องถิ่น: นวลน้อย

ลักษณะวิสัย: ไม้คลุมดิน

ลักษณะ:

เป็นพืชคลุมดินเป็นหญ้าที่นิยมนำมาปลูก กลางแจ้งมากที่สุดในเมืองไทย ชอบความชื้นสูงสามารถปรับสภาพแวดล้อมได้ดี ทนร้อนและแห้งแล้งได้ดี ใบสีเขียวเข้มมีขนเล็กๆ ใบแคบเรียวยาวตัดแต่งรูปทรงได้ดี สามารถขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียวหรือดินปนทราย แหล่งปลูกที่สำคัญ มีปลูกกันมาแถวมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง
โดยเกษตรกรจะปลูกและตัดมาขายเป็นแผ่น ตารางเมตรละ 18 -30 บาท และยังเป็นสินค้าส่งออก

หญ้านวลน้อยขยายพันธ์
โดยการ เพาะเมล็ดและการปักชำที่ลำต้น เนื่องจากเป็นหญ้าที่ขึ้นได้ง่าย และเจริญเติบโตเร็ว เวลาตัดแต่งจะเหมือนพรม เวลาย่ำก็จะนุ่มเท้าจึงเป็นที่นิยมนำมาปลูกสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น สนามกอล์ฟ สถานที่ราชการ สวนหย่อมร้านอาหาร โรงแรม ในสนามกอล์ฟใหญ่ๆ ใช้ทำ กรีน (Green) ซึ่งเป็นที่ตีลูกกอล์ฟลงหลุม ใช้ทำบริเวณ (tee) ซึ่งเป็นที่เริ่มต้น เล่นกอล์ฟ ตลอดจนปลูกเป็นทางตีกอล์ฟ (Fair way) หญ้านวลน้อยเป็นหญ้าที่โตเร็วควรตัดแต่งบ่อยมิฉะนั้นมันมักจะออก

ดอกทำให้สนามดูเป็นสีดำไม่สวย

การกระจายพันธุ์: ใช้ลำต้นมากกว่าเมล็ด

ประโยชน์: นิยมปลูกเป็นสนามนั่งเล่น และใช้จัดสวนโดยทั่วไป

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.shc.ac.th/learning/botanical-garden/231.htm

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ว่ากันเรื่องรถตัดหญ้า

สนามหญ้าที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 8 คูณ 8 ตารางเมตรขึ้นไปคงเป็นงานหนักเวลาตัดหญ้านะครับ อย่างสนามผมเองประมาณ 10 คูณ 10 ตารางเมตร ตอนนี้ผมยอมรับเลยว่าใช้กรรไกรตัดหญ้าตัดอยู่เลย เรียกว่าตัดกันเเทบทุกวัน เพราะว่าผมจะตัดหญ้าตอนเย็นๆ ประมาณ 5 โมงถึง 6 โมงเย็น พอมืดก็เลิกก็เลยต้องแบ่งโซนตัดผลัดกันแต่ละวันๆ

มานั่งนึกดูแล้วเหนื่อยและเสียเวลาทำอย่างอื่นค่อนข้างมากเลย แทนที่จะได้ปลูกต้นไม้อย่างอื่นทำอะไรใหม่ๆแต่ว่าต้องมานั่งตัดหญ้าเเทบทุกวัน ตอนนี้ก็เลยเริ่มคิดถึงรถตัดหญ้าแล้วครับ

ผมเองก็ไม่รู้เรื่องรถตัดหญ้าอะไรมาก่อนหรอกนะครับ ก็ลองเสิร์ทดูในกูเกิลก็พอจะรู้มาว่ารถตัดหญ้านั้นมีหลายแบบ ตั้งแต่แบบใช้เเรงคนเข็นซึ่งตอนแรกที่ผมรู้ว่ามีแบบนี้ผมสนใจมากๆครับเพราะว่าไม่ต้องเสียบไฟ ไม่มีเสียงดัง ลองไปดูรูปกันครับน่าสนใจจริงๆ สำหรับคนชอบสนามหญ้า



หลักการทำงานของมันก็อาศัยเเรงเข็นจากเรานี่เเหละครับไปขับเคลื่อนเฟืองที่ทดเเรงและหมุนใบมีดตัดหญ้าให้หมุนขบกันกับขอบรถให้หญ้าขาด ราคาเท่าที่ผมรู้ก็ประมาณ สองพันกว่าบาท รู้สึกว่ามันเเพงไปหน่อยเหมือนกัน ถ้าเทียบกับรถตัดหญ้าไฟฟ้า และยิ่งลังเลมากขึ้นอีกเมื่อมีคนบอกมาว่าเอาไปตัดหญ้านวลน้อยไม่ค่อยได้ หญ้าจะไม่ขาดเเล้วมันจะดึงหญ้าหลุดอีก ไม่รู้ว่าคนที่บอกเอาไปใช้ตัดหญ้าที่มันยาวมากเกินไปหรือปล่าวเลยเป็นแบบนั้น ผมว่าถ้าตัดบ่อยๆ 3 วันครั้งไม่มีทางตัดไม่ขาดเเน่นอน

ยังไงผมก็ยังคิดว่าจะซื้อเจ้าตัวนี้นะเพราะว่าผมเป็นคนชอบปลูกหญ้าและมีเวลาพอสมควรที่จะตัดหญ้าได้บ่อยๆ เเละถ้าตัดบ่อยๆก็ไม่น่าจะมีปัญหาอย่างที่เคยได้ยินมา

ส่วนแบบที่สองที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผมนั่นก็คือรถตัดหญ้าไฟฟ้า ตอนที่ผมเริ่มอยากได้รถตัดหญ้าก็คิดแค่รถตัดหญ้าไฟฟ้าเท่านั้นเพราะว่ามันน่าจะเงียบกว่ารถตัดหญ้าเเบบเครื่องยนต์ และตอนเเรกก็ไม่รู้ด้วยว่ามีรถตัดหญ้าแบบใช้เเรงคนเข็น และก็ได้ดูโฆษณาในทีวีช่องอะไรจำไม่ได้เหมือนกัน เป็นโฆษณารถตัดหญ้าคันเล็กๆ รู้สึกสนใจก็ตรงที่ราคามันถูกดีนี่เเหละ สองพันสามร้อยกว่าๆเองถ้ารวมค่าจัดส่งสักสามร้อยก็สองพันหกร้อย ในรูปที่เอามาให้ดูไม่ใช่ตัวที่ผมดูในทีวีนะครับ เป็นตัวอย่างเฉยๆครับ

ความรู้สึกของผมตอนนี้จะเทใจให้เครื่องตัดหญ้าที่ใช้เเรงคนเข็นมากกว่า เพราะว่าเงียบกว่าไฟฟ้าแน่นอน แต่ก็มีข้อเสียคือต้องมากวาดเศษหญ้าเอง ส่วนรถตัดหญ้าไฟฟ้าก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรหรือปล่าวตอนนี้ก็กำลังศึกษาหาข้อมูลไปเรื่อยๆครับรอน้ำลงปลูกหญ้าใหม่เมื่อไหร่ได้ตัดสินใจได้เลย

วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เพลงอคูสติกกับสนามหญ้า

วันนี้เรามาพักผ่อนกันสักวันครับหลังจากที่เราเหน็ดเหนื่อยปลูกหญ้า ทำสวนกันมานานจนเเล้วจนรอดน้ำก็ท่วมหมด ไม่รู้ว่าจะทำยังไงได้เพราะว่าบ้านนอกก็อย่างนี้แหละนะ ได้แต่คิดในแง่ดีว่าจะได้ ได้ดินใหม่มาปลูกหญ้าให้งามๆ

ผมตั้งหน้านี้ว่าเพลงอคูสติกกับสนามหญ้าก็เพราะว่า เมื่อนึกถึงตอนที่สนามหญ้าน้ำยังไม่ท่วม ตอนเย็นๆ ลมโชยๆมา แสงโคมไฟเล็กๆในสนามเริ่มติด ผมชอบนั่งดีดกีต้าร์ไปและก็มองวิวรอบๆไป มันได้อารมณ์ดีและรู้สึกว่าเราได้บอกอะไรกับใครที่อยู่ไกลๆเหลือเกินได้ ถึงแม้ว่าใครคนนั้นจะไม่มีทางรู้ก็เถอะ

ผมเองเป็นคนที่ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ไม่ชอบเที่ยว ก็เป็นซะอย่างนี้แหละครับ ว่างเมื่อไหร่ก็นึกถึงแต่ว่าจะฟังเพลงแล้วก็มองหญ้าเขียวๆ ท้องฟ้าสวยๆ พอดีวันนี้มีเพลงดีเพราะๆมาแนะนำสักเพลง เป็นเพลงที่เด็กคนนึงเล่นกีต้าร์และโพสต์ลงไว้ในยูทูป ฟังแล้วประทับใจมากๆครับ ลองฟังดูได้ครับที่ลิ้งเลย A Whiter Shade Of Pale - Sungha Jung

ที่ชอบเพลงนี้ก็เพราะว่าฟังสบายๆ ทำให้เราได้คิดถึงสิ่งต่างๆที่เราคิดถึงไปตามอารมณ์ของเพลงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอารมณ์เหงา เศร้า ไม่รู้ใครเป็นเหมือนกันหรือปล่าวเวลาเราฟังเพลงที่ชอบเเล้วนึกถึงเรื่องเก่าๆที่ผ่านมา มันมีความสุขจริงๆ ถึงแม้ว่าอาจจะปนเศร้าซะส่วนใหญ่ก็เหอะแต่มันก็รู้สึกมึความสุขที่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านั้นนะ

บนโลกเรายังมีอะไรอีกมากมายจริงๆครับที่น่าสนใจ บางเรื่องเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันมีจริง มีอยู่ ทุกอย่างก็เหมือนฟ้าดลเหมือนกันครับจะเจอก็เจอจะไม่ได้เจอก็ไม่ได้เจอ ขอให้มีความสุขทุกๆคนครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การพรวนดินสนามหญ้า

การพรวนดินสนามหญ้า หลายคนได้ยินอาจจะรู้สึกสงสัยว่าจะพรวนดินที่มีหญ้าคลุมอยู่ได้ยังไง ผมเองตอนเเรกที่ศึกษาเรื่องการปลูกหญ้าดูแลหญ้าก็สงสัยเหมือนกันครับว่าจะทำได้ยังไงและทำอย่างไร

เขาว่ากันว่าต้นไม้นั้นต้องการอากาศหายใจเหมือนกับเรา ใบไม้ก็ต้องการแสงต้องการอากาศ รากก็ต้องการอาหารในดินและอากาศด้วยดังนั้นหญ้าก็เหมือนกันก็ต้องการการพรวนดินเหมือนกับต้นไม้ทั่วๆไป

การพรวนดินที่ผมหาข้อมูลมานั้นเขาใช้เหล็กประมาณ 6 หุน แทงลงไปแล้วก็โยกนิดหน่อยให้ดินเป็นรู นี่คือหลักการง่ายๆในการพรวนดินจริงๆ จริงๆแล้วเราใช้อะไรก็ได้ครับเเทงลงไปที่ดินไม่ต้องกลัวว่าหญ้าจะตาย ขอเพียงให้สิ่งที่เราใช้แทงดินเพื่อพรวนดินนั้นมีความแหลมหน่อยเพื่อจะได้แทงแล้วรอดช่องระหว่างลำต้นของหญ้าลงไปได้ง่าย

เท่าที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้พรวนดินสักเท่าไหร่จะพรวนก็เดือนละสองครั้ง เพราะว่ายุ่งๆกับการเพาะหญ้าอยู่แล้วน้ำก็ท่วมตายหมดไปเรียบร้อยแล้ว อุปกรณืสำหรับพรวนดินสนามหญ้าถือ่ายังต้องปรับปรุงสำหรับผมครับเพราะว่าแบบในรูปนี้กว่าจะพรวนดินเสร็จทั้งสนามก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย

ยังไงถ้าได้เเบบที่พรวนดินดีดีกว่านี้เมื่อไหร่จะมาอัพเดทในส่วนนี้อีกทีนึงครับ

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กรรไกรตัดหญ้า กับการลับคม

คงจะมีหลายคนเลยที่สงสัยว่ากรรไกรตัดหญ้าไม่คมแล้วจะลับยังไงให้คม วันนี้ผมได้สรุปคำตอบมากจากประสบการณ์ของผมมาให้ฟังแล้วครับ

ผมสรุปได้ว่ากรรไกรตัดหญ้านั้นไม่ควรจะลับคมของมันครับ เพราะอะไร?....
เพราะว่าการที่เราไปลับคมของกรรไกรตัดหญ้า จะทำให้เวลาใบกรรไกรขบกัน ไม่สนิทจะยิ่งทำให้กรรไกรไม่คมมากขึ้นครับ

แล้วจะทำอย่างไร?...

ก่อนอื่นเรามาสักเกตุการขบกันระหว่างใบกรรไกรทั้งสองก่อนครับ ถ้าสังเกตุดีดี เวลาเราตัดมันจะต้องค่อยๆขบกันไปเรื่อยๆตั้งแต่โคนกรรไกร ไล่ไปจนถึงปลายกรรไกร กรรไกรที่คมจะไม่มีช่องว่างระหว่างการขบหรือการตัดนี้ การขบจะต้องแนบสนิท ถ้าเป็นกรรไกรที่ไม่คมจะสังเกตุได้ว่ามันขบกันไม่สนิท ซึ่งเท่าที่ผมเคยใช้มามันจะเริ่มไม่สนิทตรงโคนหรือว่าตรงที่ใกล้มือเราก่อน ผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่าเวลาตัดหญ้า จะใช้ส่วนปลายกรรไกรตัดเพราะรู้สึกว่ามันคมดี

การแก้ไข
-อาจจะบอกได้ว่าทำยังไงก็ได้ให้ใบมันกลับมาขบกันเหมือนเดิมอาจจะต้องดัดแต่ผมเองก็ยังไม่เคยดัดเหมือนกัน
-อย่าซื้อกรรไกรตัดหญ้าราคาถูกเกินไป ผมซื้อมากี่อันกี่อันแป๊บเดียวก็ไม่คม
-อย่าเอากรรไกรตัดหญ้าไปตัดกิ่งไม้เล็ก ห้ามเด็ดขาด จะทำให้กรรไกรไม่คมได้ทันที ผมลองมาแล้ว

รวมๆแล้วอาจจะมีแต่วิธีป้องกันเท่านั้น แต่ถ้าหากผมพบวิธีเมื่อไหร่จะมาอัพเดทในส่วนนี้อีกครั้งครับ

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การรดน้ำสนามหญ้า สปริงเกอร์

ผมได้เล่าถึงเรื่องต่างๆของการปลูกหญ้านวลน้อย และวิธีต่างๆที่จะทำให้หญ้าโตเร็ว เต็มเร็วไปแล้วมานั่งนึกๆดูยังขาดอะไรไปบ้าง ก็นึกขึ้นได้ว่าการรดน้ำก็สำคัญมากไม่เเพ้ขั้นตอนอื่นๆเลย

เชื่อมั้ยครับตอนเเรกผมไม่เคยนึกว่าตัวเองจะต้องซื้อสปริงเกอร์มารดน้ำต้นไม้เลย คิดอยู่เสมอว่าแค่รดน้ำต้นไม้กับสนามหญ้าเดินถือสายยางฉีดรดเอาก็ได้แป๊บเดียว เดี๋ยวก็เสร็จ ตอนแรกที่สนามหญ้าผมเล็กๆมันก็เป็นแบบนั้นครับ แต่พอมาตอนหลังที่สนามผมใหญ่ขึ้นแล้วต้องรดน้ำบ่อยอีก โดยเฉพาะตอนกลางวันผมต้องกางร่มแล้ก็รดน้ำทนร้อนอยู่ได้ไม่นานครับ ทำสปริงเกอร์ดีกว่า ไม่ไหวแล้ว

การรดน้ำสนามหญ้าผมสรุปจากประสบการณ์ของผมนะครับ โซนที่เต็มแล้วผมรดทุกวันตอนเย็นครับหรือถ้าเเดดแรงๆมากๆก็รดตอนกลางวันด้วยแล้วแต่แดดครับ
ส่วนโซนที่เพาะผมรด เช้า กลางวัน เย็นครับ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนก็ต้องลงไปดูที่สภาพดินเลยครับว่าแห้งหรือว่าเเข็งหรือปล่าว ทำยังไงก็ได้ครับให้ดินชุ่มตลอดแต่ไม่ขังก็โอเคสำหรับหญ้าที่ปลูกแบบเพาะ

มันก็เหมือนเรื่องบังเอิญเหมือนกันครับผมเดินๆอยู่ในโลตัสก็ไปดูมุมของแต่งสวนทำสวนก็ไปเจอสปริงเกอร์พลาสติกกำลังลดราคา แต่จำไม่ค่อยได้ว่าเท่าไหร่ลดราคาลงมาเหลือประมาณ 35 บาทหรือว่า 39 บามนี่เเหละไม่เเน่ใจ เห็นแล้วก็สนใจก็เลยลองซื้อมาอันนึง


จากรูปผมได้ถอดเอาหัวเดิมของมันเปลี่ยนเป็นหัวสปริงเกอร์ที่ผมเผอิญไปเจอมาที่โฮมมาร์ตอนไปซื้อท่ออันละ 15 บาทเอง ที่เห็นโครงสีดำใบปัดน้ำเงินนั่นแหละ มันเกลียวเดียวกันใส่แทนกันได้เลย ที่ต้องเปลี่ยนก็เพราะว่าของที่ซื้อมาจากโลตัสมันต้องการเเรงดันน้ำมากกว่า แต่ตัวที่ซื้อมาจากโฮมมาร์ท 15 บาท มันหมุนง่ายมากไม่ต้องใช้ปั้มน้ำเเรงมากก็กระจายสะใจแล้ว แบบนี้ผมเอาไว้เป็นแบบเคลื่อนที่ เพราะมันเเค่เอาไปตั้งเฉยๆไม่ได้ปักดิน พอเสร็จก็ไปเก็บสะดวกมาก


สองสามวันต่อมาผมเดินไปดูที่มุมสวนในโลตัสอีกก็เจอสปริงเกอร์คล้ายๆตัวเเรกที่ซื้อไปแต่ตัวนี้ มันเป็นแบบปักดิน ก็เลยซื้อมาตัวนึงแล้วก็จัดการโมดิฟายเหมือนเดิม แบบนี้ก็ดีตรงที่ตัวสปริงเกอร์เหมือนเดิมคือเราเปลี่ยนหัวใบปัดน้ำได้เลยเกลียวเดียวกันแทนกันได้ แบบนี้ถ้าคนชอบเเบบปักผมก็ว่ามันสะดวกดี  ไม่ต้องไปทำเองซื้อท่อ ซื้อข้อต่อ ซื้อข้อแยก อันนี้เรียกว่าซื้อมาเเล้วก็เปลี่ยนใบปัดเสียบสายยางใช้ได้เลยง่ายดี


อันนี้เป็นแบบประกอบกันเองทั้งตัวครับ ข้อดีก็จะอยู่ตรงที่ว่าเราถอดประกอบได้ทุกส่วนไม่ต้องทากาวนะครับที่ผมใช้อยู่ไม่เคยทากาวไม่เคยหลุดครับ จะได้เอาไว้ถอดนู่นใส่นี่โมไปเรื่อยๆได้ สังเกตุดูแบบนี้ผมทำก้านขึ้นไปค่อนข้างสูงก็เพราะจะได้รัศมีการรดน้ำที่ไกลขึ้นครับ

ผมเองก็ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรหรูหรามากมายแต่เน้นเอาของที่ถูกๆมาใช้ทั้งนั้นครับ สบายใจดี
สำหรับสนามหญ้าที่ไม่ได้ปลูกแบบเพาะที่มีหญ้าเต็มเเน่นอยู่แล้วผมแนะนำให้ใช้สปริงเกอร์แบบเคลื่อนที่ครับส่วนจะใช้กี่ตัวนั้นก็เเล้วแต่ความใหญ่ของสนาม ส่วนสนามที่ปลูกแบบเพาะก็ทำสปริงเกอร์เเบบปักไปเลยครับจะได้ไม่ต้องลงไปตากเเดดร้อนเวลาจะรดก็เปิดปั้มบนบ้านอย่างเดียว และไม่ต้องกังวลหญ้าที่โดนสายยางทับอยู่นะครับ ซักสองวันค่อยไปขยับเปลี่ยนที่สายยางนิดนึงก็พอครับรับรองหญ้าตรงนั้นไม่ตายครับ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนหญ้าเต็มก็เปลี่ยนใช้เเบบเคลื่อนที่ ว่าเเล้วลุยเลยครับ

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โคมไฟกับสนามหญ้า

ของแต่งสวนจัดสวนนั้นมีมากมายให้ได้เลือกและเติมแต่งสวนตามความชอบตามสไตล์ของแต่ละคน วันนี้ผมขอแนะนำสิ่งที่ทำให้สนามหญ้าดูสวยและสง่าขึ้นอีกนั่นคือโคมไฟครับ


โคมไฟแต่งสวนชนิดนี้เป็นแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ครับ หลายคนอาจจะบอกว่ามันไม่สว่างแค่หลอด LED ดวงเดียว แต่นั่นหละครับที่ผมว่ามันสวย โดยเฉพาะเวลาที่สวนของเราอยู่ในความมืด เผอิญว่ากล้องผมถ่ายภาพในที่มืดแล้วออกมาไม่สวยก็เลยไม่ได้เอารูปมาลงให้ดูครับ

การทำงานของโคมไฟเราก็ไม่ต้องทำอะไรเลยครับแค่หาที่ตั้งที่มันโดนแดดนานๆหรือว่าโดนแดดทั้งวันเลยยิ่งดีครับ แผงโซล่าเซลล์จะเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้า ให้ถ่านชาร์จที่อยู่ในโคมจนเต็ม พอไม่มีแสงตอนกลางคืนวงจรก็จะเปิดโคมไฟเองจนถึงเช้าก็กลับมาชาร์จไฟใหม่เรียกว่ามันทำงานด้วยตัวเองเป็นวงจรตลอดเวลา สิ่งที่ต้องดูแลอาจจะเป็นเรื่องความสะอาดของหน้าแผ่นโซล่าเซล์ผมแนะนำว่าให้ซื้อแบบที่มีเลนส์ใสกันอีกชั้นนึงจะดีมากกว่าแบบที่ผมถ่ายรูปมา เพราะว่าไม่มีเลนส์หุ้มแผ่นโซล่าเซลล์เลยทำให้น้ำขังบนแผ่นและเกิดคราบน้ำเยอะมากๆ และก็อาจจะต้องเปลี่ยนถ่านชาร์จบ้างเมื่อหมดสภาพ

โคมไฟแบบนี้ก็ไม่ได้จะสวยแค่ตอนกลางคืนอย่างเดียวเท่านั้น ในตอนกลางวันมันก็โดดเด่นได้ไม่เเพ้ตอนกลางคืนเลยและยังทำให้สนามหญ้าหรือว่าสวนของเราดูสง่างามมากขึ้นอีกด้วยลองดูรูปด้านล่างครับ



พูดถึงตอนกลางคืนอีกครั้งครับ ถ้าหากใครมีสนามหญ้าที่ไม่ใหญ่มากถ้าลองเอาโคมไฟแบบนี้ไปเรียงเป็นทางเดินขอบอกได้ว่าสวยงามสุดๆครับ หรือว่าจะเรียงอิฐตัดสนามหญ้าเป็นทางเดินแล้วก็มีโคมไฟนี้ปักตามไปสองข้างทางก็สวยมากเหมือนกัน และในโอกาสวันเกิดคนรัก หรืออยากเซอร์ไพร์คนพิเศษ ก็เรียงโคมไฟเป็นตัวอักษรหรือเป็นคำต่างๆได้อีก นอกจากสวยงามแล้วยังเล่นได้อีกหลายแบบแล้วแต่จะคิดเลยครับ

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

มุมดอกไม้ในสวน

สวัสดีครับหลายคนอ่านกันมาหลายบทความก็เห็นแต่ว่าสวนของผมมีแต่สีเขียวของหญ้านวลน้อยแต่ไม่เห็นจะมีดอกไม้เลย วันนี้เลยเอาภาพมุมดอกไม้ในสวนของผมมาให้ชมกันครับ

อย่างที่บอกว่าน้ำท่วมทุกปีผมก็เลยไม่เน้นต้นไม้ที่ราคาเเพงหรือว่าโตช้าครับ เน้นที่เป็นง่ายโตเร็ว ก็หนีไม่พ้น ต้นคุณนายตื่นสาย บานชื่น บานไม่รู้โรย พวกนี้ขึ้นง่ายโตเร็ว ขยายพันธุ์ได้ง่าย เข้าสเป็คที่ผมต้องการเลยครับ

เท่าที่ผมทดลองปลูกผมประทับใจต้นคุณนายตื่นสายที่สุดครับ คงไม่มีต้นไม้อะไรที่จะเป็นง่ายโตเร็ว ขยายพันธุ์เร็วกว่านี้เเล้วครับ แค่เราตัดลำต้นมันยาวสัก 3 นิ้ว แล้วก็ไปปักชำหรือว่าปักในที่ๆเราจะปลูกเลยก็ได้ รดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 3 วัน ก็ฟื้นและประมาณ 1 อาทิตย์ก็ตัดไปปักชำต่อได้อีก เรียกว่ายิ่งปลูกยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณครับลองดูภาพเลย ผมซื้อมาแค่กระถางเดียว แต่มาตัดเเละปักจนเป็นแบบที่เห็น


มุมดอกไม้ของผมจะอยู่ริมสนามทั้ง 3 ด้านครับ ด้านนี้เป็นด้านขวา

รูปนี้ก็ยังอยู่ที่ริมสนามทางขวาเหมือนเดิมครับ ถ่ายหลังต้นบานชื่น

ริมสนามด้านอื่นจะเป็นคุณนายตื่นสายทั้งหมดครับ

จริงๆแล้วลองเพาะต้นไม้อีกสองอย่างอยู่แต่น้ำท่วมซะก่อนเลยไม่รู้ผลว่ามันจะโตเร็วแค่ไหน ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการจัดสวน ทำสวนและต้นไม้เขียวๆกันทุกๆคนเลยครับผม

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สวนของผมค่อยๆจมน้ำ

สนามหญ้าโดนน้ำท่วม

หลังจากที่หญ้านวลน้อยของผมอายุได้เดือนครึ่งผมก็ตัดจนสวยงามเรียบร้อยเเละเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นสนามหญ้าที่มีหญ้าเขียวชะอุ่มมีหญ้าขึ้นแน่นๆต่อไป แต่สองวันให้หลัง น้ำท่วมครับ ซึ่งหลายคนดูภาพแล้วอาจจะบอกว่าน่าตกใจและเสียดาย ผมเองก็เสียดายแต่ว่าผมเองก็ทำใจตั้งแต่ปลูกวันแรกแล้วครับว่าน้ำต้องท่วมในสักวันเพราะที่บ้านน้ำท่วมทุกปี


รูปแรกที่เห็นเป็นมุมที่จมน้ำก่อนครับตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่ต่ำสุด ภาพนี้ผมถ่ายตอนเช้าๆครับต้นคุณนายตื่นสายยังไม่บานเลย

รูปนี้เป็นส่วนขวาของสวนจะเห็นว่าหญ้าหนานุ่มเต็มที่ ซึ่งส่วนนี้อย่างที่เคยบอกเป็นส่วนที่ผมปลูกมาก่อนหลายเดือนแล้วน่าจะประมาณสี่เดือนก่อนแต่ไม่ได้ปลูกแบบเพาะชำลำต้นนะครับ ส่วนนี้ผมปลูกแบบฉีกเป็นแผ่นๆแล้วแปะ

ภาพนี้เป็นช่วงบ่ายวันเดียวกันครับจะเห็นได้ว่าน้ำค่อยๆกลืนสนามหญ้าอย่างใจเย็นเหลือเกิน


อีกมุมนึงทางขวา


มุมซ้ายล่างครับของสนามก็ถูกกลืนแทบหมดแล้ว


มุมขวาล่างมีดงต้นคุณนายตื่นสายอยู่ที่ตรงนี้จะจมเป็นลำดับสุดท้ายเพราะว่าสูงที่สุดครับ

ดูการจมแบบนี้ลึกๆเสียดายมากๆครับ เหมือนเรือไททานิคกำลังจะจมเลย เพราะนี่เป็นสวนที่ผมทำเป็นครั้งเเรกสนามหญ้าที่ใหญ่ที่สุดที่ทำเองกำลังจะจมลงสู่ใต้พื้นน้ำ ไม่รู้ว่าพอน้ำลงมันจะฟื้นหรือปล่าวนะ เเอบหวังลึกๆ

จะเห็นว่าสวนผมไม่ได้มีต้นอะไรมากครับ หลักๆก็จะมีต้นไม้ที่ปลูกแล้วขยายพันธุ์ได้เร็วแตกกอออกดอกเร็ว ก็เพราะว่าไม่นานน้ำก็ท่วมแบบนี้แหละครับ ผมพยามคิดในแง่ดีครับว่าจะได้เปลี่ยนหรือลองปลูกอะไรใหม่ๆ ได้จัดสวนใหม่จะได้ไม่เบื่อและเป็นการเปลี่ยนดินไปในตัวเพราะว่าน้ำท่วมมาแต่ละปีก็เอาดินใหม่มาถมให้เยอะมากครับ

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

และแล้วน้ำก็มา

อย่างที่ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่ต้นนะครับว่า บ้านผมข้อเสียก็คือน้ำจะท่วมทุกปีช่วงเดือนกรกฏาคมหรือสิงหาคมไปจนเดือนธันวาคมเลยบางปีพายุเข้าก็ยาวไปมกราคมเลยครับ

หลังจากที่ได้เห็นหญ้าที่ผมเพาะเองอายุ 1 เดือนครึ่งกันไปแล้ววันนี้มาดูน้ำที่กำลังจ่อขึ้นมากันครับและร่วมกันลุ้นว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วม


จะเห็นได้ว่าน้ำขึ้นมาจ่อตั้งแต่ตอนที่ผมตัดหญ้าเสร็จในบทความที่แล้วถ้าใครได้ลองสังเกตุนะครับ พื้นที่ในรูปเป็นสนามหญ้าส่วนมุมบนซ้ายที่ใกล้คลองและเเม่น้ำมากที่สุดซึ่งตรงนี้เป็นที่ที่ต่ำและลาดเอียงมากที่สุดครับ ถ้าน้ำจะท่วมสนามผมก็ต้องท่วมที่ตรงนี้ก่อน เมื่อเห็นแบบนี้แล้วผมทำใจแล้วครับว่าท่วมแน่ๆ เพราะเหลือประมาณ 10 เซ็นติเมตรเท่านั้น

ตอนเเรกที่ผมทำสนามหญ้าเล็กๆก่อนจะถมดินเพิ่มจนใหญ่ขนาดนี้ คนที่บ้านก็บอกครับว่าเดี๋ยวน้ำก็ท่วมแล้วนะนี่เดือนเมษาแล้ว ตอนนั้นจำได้ว่าผมปลูกหญ้าตอนเดือนเมษาครับ ส่วนที่เพาะใหม่นี้ปลูกตอนเดือนกรกฏาคมนี่เอง

ถ้าถามว่าน้ำท่วมตอนนี้เสียดายไหม ก็บอกได้เลยว่าเสียดายครับเพราะว่าอยากจะเห็นหญ้าแน่นเต็มสนามสักทีก่อนที่น้ำจะท่วมและตอนนี้ก็ใกล้จะเป็นจริงแล้ว แต่ว่าน้ำก็มาจ่อแล้วเหมือนกัน

หญ้านวลน้อยที่ผมเพาะอายุเดือนครึ่งครับ

มาแล้วครับรายงานการเพาะหญ้านวลน้อยอายุเดือนครึ่ง

ผมเองเป็นคนที่ปลูกหญ้าแล้วชอบดูมันบ่อยมากเกินไปก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะมีอะไรเปลี่ยนเเปลง แต่วันนี้ผมเริ่มตัดหญ้าที่เพาะอายุเดือนครึ่งแล้วครั้งเเรกเป็นอย่างไรไปดูกันครับ

ตอนที่ตัดใหม่ๆก็รู้สึกแล้วครับว่ามันสวยมากๆแม้ว่าพื้นดินที่ผมปลูกจะไม่เรียบก็ตาม ส่วนเศษหญ้าแน่นอนว่าต้องเหลืออยู่ตามรอยต่อช่องว่างของดินแน่ๆ เพราะผมไม่อยากกวาดเเรงกลัวว่าต้นหรือหน่อที่มันกำลังเลื้อยไปตามที่ว่างจะเสียหายครับ อันนี้ก็ควรระวังมากๆ


ให้ดูภาพถ่ายจากมุมบนครับเปรียบเทียบหญ้าส่วนที่ตัดแล้วกับยังไม่ได้ตัด ส่วนที่ไม่ได้ตัดจะเห็นว่าเป็นกอปุยๆ ให้ดูที่ซีกซ้ายของสนามนะครับเป็นส่วนที่ผมเพาะเอง ส่วนซีกขวาเป็นหญ้าที่ปลูกมาก่อนนานแล้วครับ


ภาพนี้ให้ดูส่วนบนครับที่เห็นเขียวอ่อนเหลืองๆนั่นคือส่วนที่ผมเพาะเอง ส่วนนี้เรียกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ อีกซัก 2 อาทิตย์ก็น่าจะเต็ม


การตัดหญ้าครั้งนี้ทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัวครับว่าผมต้องซื้อรถตัดหญ้าซะแล้วหละไม่งั้นตัดไม่ไหวแน่นอน แต่ว่าช่วงที่ตัดหญ้าครั้งแรกในส่วนที่เพาะใหม่นี้รู้สึกสนุกครับเพราะว่าได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากหญ้าที่เห็นแค่รำไรๆ ค่อยๆโตและแตกกอมากขึ้นจนมาถึงเดือนครึ่งนี้ ผมเชื่อและมั่นใจแล้วครับว่าหญ้านวลน้อยโตเร็วจริงๆ ใครที่เพิ่งมาเจอหน้านี้ให้ลองย้อนไปดูตอน 2 อาทิตย์เเรกกับ 1 เดือนดูได้นะครับว่ามันโตเห็นๆ จริงๆ

รูปนี้ตัดเสร็จเรียบร้อยครับ ผมอลงคำนวนเวลาดูรู้สึกว่าใช้เวลาหลาชั่วโมงครับกับการตัดหญ้าแค่ในส่วนที่ผมเพาะเองใหม่ด้านข้างและด้านบน สงสัยต้องซื้อรถตัดหญ้าจริงๆ


รูปนี้เป็นสภาพของต้นหญ้านวลน้อยที่ผมเพาะเองและเพิ่งตัดใหม่ๆครับ จะเห็นว่ามีใบยาวหลงเหลือบ้างก็เป็นเพราะว่าใบหญ้านั้นนอนหรือลู่ไปตามช่องว่างของรอยต่อครับทำให้การตัดนั้นทำได้ยากที่จะให้เท่ากัน แต่ไม่ต้องห่วงครับพอหญ้าเต็มพื้นที่เมื่อไหร่ ใบหญ้าจะชี้ขึ้นมาเองและก็ตัดได้เท่ากันหมดเองครับ
เมื่อดูรวมๆแล้วเรียกว่าใกล้แล้วครับ ใกล้ที่หญ้านวลน้อยจะเต็มพื่นที่แล้ว สภาพตอนนี้เรียกว่าเหลือแค่รอให้หญ้าขึ้นแน่นแล้วตัดอีกครั้งให้เท่ากันทั้งหมดเท่านั้นเอง

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หญ้านวลน้อยกับการให้ปุ๋ย

การปลูกต้นไม้ทุกชนิดแน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือการให้อาหารหรือว่าปุ๋ยนั่นเอง เมื่อต้นไม้อยู่นานๆเข้าอาหารบริเวณนั้นก็ต้องเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ หญ้านวลน้อยก็เหมือนกัน ผมเคยได้ยินเเละเคยอ่านมาว่าบางคนปลูกหญ้านวลน้อยเเล้วเดือนแรกก็เขียวดี แต่พอเดือนที่สองเดือนที่สาม ก็ไม่เขียวเหมือนตอนแรก

อย่าเพิ่งตกใจไปครับเพราะว่าผมเองได้ทดลองปลูกและลองถูกลองผิดและกำลังจะเล่าให้ฟังว่าทำอย่างไรให้หญ้านวลน้อยเขียวสดอยู่ตลอดเวลาครับวันนี้ผมจะพูดถึงเรื่องปุ๋ยก่อน

ง่ายๆครับปุ๋ยที่ใช้สำหรับหญ้านวลน้อยก็จะเป็นปุ๋ยที่บำรุงลำต้นและใบครับ ข้อมูลต่างๆผมก็ค้นหามาจากกูเกิลครับและก็ดูหลายๆที่รวมทั้งเวปที่ทำนาหญ้าขายด้วยก็ได้สรุปว่าใช้ปุ๋ยสูตร ยูเรีย46-0-0 และปุ๋ยสูตร 16-16-8

รูปลักษณะปุ๋ยยูเรีย46-0-0(สีขาว) ปุ๋ย16-16-8 สีฟ้า

อัตราส่วนที่ผมหาข้อมูลมานั้นเค้าจะให้ปุ๋ยยูเรีย 1 ส่วน และ 16-16-8 สามส่วน แต่ที่ผมทดลองและให้มาตลอดผมให้ปุ๋ยยูเรียสามส่วน ปุ๋ย16-16-8 หนึ่งส่วนครับ เพราะผมคิดว่าปุ๋ยยูเรียนั้นบำรุงลำต้นเเละใบส่วน 16-16-8 นั้นเป็นแร่ธาตุเสริมทั่วไป จึงให้ปุ๋ยตามที่บอกและปรากฏว่าก็ได้ผลดีมากครับดังจะเห็นได้จากการเพาะหญ้าของผม

การให้ปุ๋ยนั้นมีสองอย่างครับคือหว่านให้กับผสมน้ำแล้วรด ข้อควรระวังคือการให้ปุ๋ยแบบหว่านต้องรดน้ำตามเยอะๆนะครับเพื่อให้เม็ดปุ๋ยละลายให้หมด ผมเคยหว่านปุ๋ยแล้วรดน้ำน้อยไปพออีกวันนึงหญ้าโดนแดดแล้วเหลืองเป็นวงๆ เล็กๆ ทั่วไปหมดก็เลยรู้เลยว่าเพราะปุ๋ยไม่ละลายแน่ๆ ดังนั้นการให้ปุ๋ยแบบหว่านจึงควรรดน้ำตามหรือเปิดสปริงเกอร์สัก15นาที ครับ

ส่วนการให้ปุ๋ยแบบผสมน้ำรดนั้นผมก็ใช้วิธีกะเอาครับที่ผมใช้ได้ผลคือน้ำ 1 บัวรดน้ำ ปุ๋ยยูเรีย 3 กำมือ และ16-16-8 1 กำมือ คนให้ละลายในบัวรดน้ำเลยแล้วก็ค่อยนำไปรด การรดก็ให้เหวี่ยงบัวรดน้ำไปเรื่อยๆทั่วทั้งพื้นที่พอหมดก็มาผสมใหม่ เมื่อทั่วทั้งสนามแล้วก็เปิดสปริงเกอร์หรือรดน้ำตามเล็กน้อยพอให้สนามชุ่มชื้นก็โอเคครับ

ระยะเวลาการให้ปุ๋ยนั้นก็จะแตกต่างกันไปครับสำหรับ
-สนามหญ้าปรกติให้สองอาทิตย์ครั้งหรือเดือนละครั้ง เท่าที่ผมทดลองให้อาทิตย์ละครั้งหรือสองอาทิตย์ครั้งหญ้าเขียวเหมือนกันครับแนะนำให้สองอาทิตย์ครั้งน่าจะดีกว่า
-ส่วนการเพาะหญ้าแบบที่ผมทำในบล็อกนี้ผมให้อาทิตย์ละสองครั้งสลับกับอาทิตย์ละครั้งครับ เพาะว่าต้องการเร่งการเติบโตให้เร็วที่สุดผลที่ได้ก็ติดตามในส่วนของเรื่องการเพาะหญ้าได้ครับ

สิ่งสำคัญเลยครับ ก่อนให้ปุ๋ยน้ำควรตรวจสอบดินดูก่อนว่ามีความชุ่มชื้นหรือปล่าวโดยเอานิ้วกดดู ถ้าดินเเห้งหรือเเข็งเกินไปให้รดน้ำทิ้งไว้ให้ชุ่มชื้นก่อน เพื่อให้ปุ๋ยที่เราจะให้นั้นซึมลงดินได้ง่ายครับ

สุดท้ายก็ขอให้มีความสุขกับสนามหญ้าเขียวๆกันทุกคนเลยนะครับผม