ต้นโมกเมื่อเจอฝนแล้วจะเป็นอย่างไร คำตอบที่ผมให้ได้ทัีนทีก็คือ ยิ่งงามยิ่งเขียวและออกดอกให้เราได้ดูได้ดมด้วยครับ ยิ่งฝนหนักเท่าไหร่ยิ่งดีครับ แต่ทำไมโมกของผมเองช่วงนี้มันเหลืองใบร่วงก็ไม่รู้
ผมเคยเจอปัญหาใบเหลืองแล้วก็ร่วงแบบนี้มาก่อนแล้วนะครับ ตอนนั้นไม่รู้จะแก้ยังไงก็เอาปุ๋ยใส่บ้างฉีดยาบ้าง จนสุดท้ายจนปัญญาแก้ไม่หายก็ได้แต่รดน้ำมันอย่างเดียวแต่ว่ารดเยอะมาก เรียกว่าไม่ให้ดินแห้งเลยครับ แล้วมันก็กลับมาเขียวชอุ่มเหมือนดังเดิมตามที่ผมต้องการ และปีนี้มันเกิดอะไรขึ้น
ไล่เรียงเหตุการณ์ สภาพดินไม่อุ้มน้ำเลยผมพยามรดน้ำบ่อยๆแต่ก็ไม่สม่ำเสมอแน่นอนว่ามีช่วงที่ดินแห้งเป็นระยะๆ ต่อมาอัดปุ๋ยคอกแล้วรดน้ำเหมือนเดิมยังไม่ดีขึ้น ล่าสุดใส่ปุ๋ย 16-16-16 แล้วรดน้ำได้วันสองวัน ใบร่วงเหลือง แต่ผมไม่เชื่อว่าเป็นเพราะปุ๋ยที่ใส่ เพราะว่าต้นโมกในแนวอื่นๆของบ้านก็ใส่ปุ๋ยให้เหมือนกันแต่ก็งามเขียวดี ไม่ได้มีอาการใบเหลืองแล้วร่วงเหมือนกับทางนี้
เหตุที่ผมคิดว่าเป็นไปได้คือ
1.ดินที่ไม่อุ้มน้ำเลย ต้องยอมรับ
2.ความประมาทที่เห็นว่าฝนตกปรอยๆทั้งวัน แต่ความจริงมันไม่ได้ทำให้ดินโคนต้นโมกนั้นเปียกหรือชุ่มชืนเลย
สรุปปัญหาแล้วผมคิดว่าต้องอัดน้ำและหาวัสดุคลุมดินโคนต้นโมกเพิ่ม แม้ว่าจะเป็นหน้าฝนแต่ตอนนี้คงต้องรดน้ำอัดโคนต้นโฒกกันอย่างมากเลยเพราะว่าใบร่วงเหลืองทั้งต้นแล้ว ไว้คืบหน้าอย่างไรจะมาบอกเล่าให้ได้ทราบกันต่อไปครับ
วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555
เมื่อมีบัว แน่นอนต้องมีปลา
มันเหมือนของคู่กันที่ขาดไม่ได้จริงๆครับสำหรับคนที่เลี้้ยงบัว เวลาดูบัวสวยๆในอ่างถ้าหากได้เห็นปลาตัวเล็กๆว่ายอยู่ให้น้ำดูยิบๆยับๆมันก็จะเพิ่มความร่มรื่นหัวใจมากยิ่งขึ้น
ว่าแล้วก็จัดไปเลยครับ ปลาหางนกยูง ตอนแรกผมซื้อมาตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมียสามตัว ไว้ในอ่างบัวหน้าบ้าน แล้วมันก็มีลูกมีหลาน ต่อมามีอ่างบัวเพิ่มผมก็เลยขยับขยายแบ่งๆมาลงอ่างนี้สิบตัว อ่างนี้สิบตัว เล็กใหญ่ปนๆกันไป
ด้วยความเชื่อที่ว่าปลาจะมาทำให้เกิดปุ๋ยบัวโดยธรรมชาติ อาหารปลาที่เหลือก็เป็นปุ๋ยบัวไป ตะไคร่น้ำต่างๆก็เป็นอาหารอย่างดีให้ลูกปลา แข็งแรงกันทั้งปลา ทั้งบัวเลย เท่าที่คิดวางแผนเอาไว้แบบนั้นครับ
แต่จะจริงจะได้ผลอย่างที่ตั้งใจหรือปล่าวก็ต้องติดตามดูกันต่อไปครับเวลาจะทำให้เราได้รู้สิ่งที่เราทดลองทำเอง ตอนแรกก็คิดเหมือนกันนะครับว่า เลี้ยงปลาเเล้วจะใส่ปุ๋ยบัวลำบาก แต่คิดไปคิดมาแล้วยังไงก็ขาดปลาไม่ได้แน่นอน เรื่องปุ๋ยเดี๋ยวค่อยใส่ทีละน้อยๆเอาก็แล้วกัน
ว่าแล้วก็จัดไปเลยครับ ปลาหางนกยูง ตอนแรกผมซื้อมาตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมียสามตัว ไว้ในอ่างบัวหน้าบ้าน แล้วมันก็มีลูกมีหลาน ต่อมามีอ่างบัวเพิ่มผมก็เลยขยับขยายแบ่งๆมาลงอ่างนี้สิบตัว อ่างนี้สิบตัว เล็กใหญ่ปนๆกันไป
ด้วยความเชื่อที่ว่าปลาจะมาทำให้เกิดปุ๋ยบัวโดยธรรมชาติ อาหารปลาที่เหลือก็เป็นปุ๋ยบัวไป ตะไคร่น้ำต่างๆก็เป็นอาหารอย่างดีให้ลูกปลา แข็งแรงกันทั้งปลา ทั้งบัวเลย เท่าที่คิดวางแผนเอาไว้แบบนั้นครับ
แต่จะจริงจะได้ผลอย่างที่ตั้งใจหรือปล่าวก็ต้องติดตามดูกันต่อไปครับเวลาจะทำให้เราได้รู้สิ่งที่เราทดลองทำเอง ตอนแรกก็คิดเหมือนกันนะครับว่า เลี้ยงปลาเเล้วจะใส่ปุ๋ยบัวลำบาก แต่คิดไปคิดมาแล้วยังไงก็ขาดปลาไม่ได้แน่นอน เรื่องปุ๋ยเดี๋ยวค่อยใส่ทีละน้อยๆเอาก็แล้วกัน
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555
อัพเดทอ่างบัว
ผมเรียกไม่ถูกเหมือนกันนะครับว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่ผมเรียกว่าแยกหน่อมาและกัน เพราะว่า ผมไปเคลียร์อ่างบัวหน้าบ้านแล้วเห็นมันมี กอยาวๆใต้ดินก็เลยหักมาแล้วก็มาแปะไว้บนดินในอ่างบัวเล็กๆ ก่อนจะวางลงไปในอ่างบัวใหญ่อีกที ก็ลองดูเล่นๆแต่ว่าก็เป็นดังภาพครับ
ภาพแรกเป็นใบบัวแรกที่แตกถึงผิวน้ำ จะเห็นเป็นสีแดงเลย
ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวและใบที่สองก็ตามาเร็วมากวันหรือสองวันเอง
ถามว่าดีใจมั้ยต้องบอกว่าดีใจมากเลยครับ เพราะว่าตอนที่เด็ดมามีแต่ราก แต่ไม่มีใบหรือกิ่งอะไรเลย เหมือนขิงเหมือนข่าเลยครับตอนที่หักหน่อมา ทำลวกๆด้วยซ้ำเพราะว่าไม่ได้เอามีดหรือกรรไกรไปตัด เพราะตอนนั้นแดดร้อนรีบทำครับ
แล้วผมก็ได้รู้ว่าการปลูกบัวนั้น ไม่ต้องฝังหน่อหรือว่าต้นมันลึกมากนักจะยิ่งดี เพราะตอนแรกบัวหน้าบ้านผม แตกใบใหม่ช้ามากแต่พอไปขุดขึ้นมาแล้วฝังให้ดินกลบตื้นขึ้น ก็แตกใบใหม่เร็วเป็นปรกติแล้ว ตอนนี้ก็แตกใบใหม่เรื่อยๆ
สังเกตใบที่สามงอกมาแล้ว เร็วมากๆ จะเห็นได้ว่าผมไม่ได้กดหน่อให้จมดิน อาจจะทำให้แตกหน่อหรือใบได้เร็วขึ้น
เรียกว่าเป็นการบอกเล่าให้ฟังแล้วกันครับสำหรับเรื่องบัว ต้องบอกว่าปักตื้นๆครับ อย่าให้ดินกลบมันลึกมาก ให้หน่อมันโผล่นิดๆยิ่งดีครับ แต่้ถ้าหากว่ากลบดินก็กลบบางๆอย่าให้เกินเซนนึงครับ มันได้แสงสว่างแล้วก็แตกใบใหม่ง่ายครับ ไม่ต้องใช้แรงมุดดินขึ้นมาครับ
ภาพแรกเป็นใบบัวแรกที่แตกถึงผิวน้ำ จะเห็นเป็นสีแดงเลย
ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวและใบที่สองก็ตามาเร็วมากวันหรือสองวันเอง
ถามว่าดีใจมั้ยต้องบอกว่าดีใจมากเลยครับ เพราะว่าตอนที่เด็ดมามีแต่ราก แต่ไม่มีใบหรือกิ่งอะไรเลย เหมือนขิงเหมือนข่าเลยครับตอนที่หักหน่อมา ทำลวกๆด้วยซ้ำเพราะว่าไม่ได้เอามีดหรือกรรไกรไปตัด เพราะตอนนั้นแดดร้อนรีบทำครับ
แล้วผมก็ได้รู้ว่าการปลูกบัวนั้น ไม่ต้องฝังหน่อหรือว่าต้นมันลึกมากนักจะยิ่งดี เพราะตอนแรกบัวหน้าบ้านผม แตกใบใหม่ช้ามากแต่พอไปขุดขึ้นมาแล้วฝังให้ดินกลบตื้นขึ้น ก็แตกใบใหม่เร็วเป็นปรกติแล้ว ตอนนี้ก็แตกใบใหม่เรื่อยๆ
สังเกตใบที่สามงอกมาแล้ว เร็วมากๆ จะเห็นได้ว่าผมไม่ได้กดหน่อให้จมดิน อาจจะทำให้แตกหน่อหรือใบได้เร็วขึ้น
เรียกว่าเป็นการบอกเล่าให้ฟังแล้วกันครับสำหรับเรื่องบัว ต้องบอกว่าปักตื้นๆครับ อย่าให้ดินกลบมันลึกมาก ให้หน่อมันโผล่นิดๆยิ่งดีครับ แต่้ถ้าหากว่ากลบดินก็กลบบางๆอย่าให้เกินเซนนึงครับ มันได้แสงสว่างแล้วก็แตกใบใหม่ง่ายครับ ไม่ต้องใช้แรงมุดดินขึ้นมาครับ
วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ปุ๋ยหมักทำเองง่ายๆ
มีหลายคนหาวิธีการทำปุ๋ยหมักเอง เพราะว่าต้องตัดหญ้าอยู่ทุกอาทิตย์ เศษหญ้าก็เยอะมากจะทิ้งก็รู้สึกว่าเสียดาย ผมเองก็เพิ่งจะมาเริ่มทำเมื่อไม่นานนี้เองครับ ลองทำดูก็ไม่ยากเย็นอะไรเพียงแต่ใช้เวลาหน่อยเท่านั้นไปทำกันเลยครับ
เริ่มต้นก็เอาเศษหญ้าหรือเศษใบไม้ต่างๆมากองรวมกัน แนะนำว่ากิ่งไม้ไม่เหมาะนะครับเพราะว่าจะย่อยสลายนานกว่าใบไม้ หรือถ้าหากจะเอารวมด้วยก็ต้องหักย่อยมันให้เล็กลงซะก่อนนะครับ หรือหาเป็นไม้ที่กิ่งอ่อนๆเล็กๆก็ไม่มีปัญหาครับพอได้อยู่
จากนั้นเอาขี้วัวมาเทลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันครับ ขั้นตอนนี้ถ้าใครมีเศษทรากพืช ทรากสัตว์อะไรก็ใส่ลงไปได้นะครับแต่ก็ดูความเหมาะสมด้วย หากมีดินถุงก็ใส่เข้าไปสักถุงนึงก็ดีครับ ขี้เถ้าแกลบ อะไรต่างๆนานาใส่ไปได้เลยครับ
แต่สำหรับที่ผมลอง ผมมีแค่ขี้วัวที่ซื้อมาถุงนึง กับดินถุงหนึ่งถุงเท่านั้นครับ
เมื่อคลุกเคล้าเข้ากันดีก็ใช้น้ำราดให้ทั่วกองแล้วคลุกอีกทีให้เปียกน้ำให้หมด จากนั้นก็ใช้อีเอ็มผสมน้ำแล้วก็ราดลงไปให้ทั่วเป็นอันเสร็จ อีเอ็มหาซื้อได้ตามร้านขายปุ๋ยได้เลยครับมีหลายขนาดให้เลือกซื้อไม่ถึงร้อยก็มีครับ
จากนั้นก็ปิดด้วยถุงดำเอาหินมาทับๆหน่อย รอประมาณ อาทิตย์ก็เปิดถุงแล้วคลุกกับทีนึง ไปเรื่อยๆแล้วปิดเหมือนเดิม เรียกว่าอาทิตย์นึงคลุกทีนึง แล้วก็อย่าให้กองปุ๋ยของเราแห็งนะครับ หากเห็นว่าเริ่มแห้งก็รดน้ำเพิ่มและใส่อีเอ็มเพิ่มในกรณีที่เห็นว่ากองปุ๋ยแห้ง
หลังจากนี้อีกสองหรือสามเดือนเราก็จะได้ปุ๋ยหมักใช้ไม่ต้องเสียดายเศษไม้ใบหญ้าในสวนเราอีกแล้วครับ เรียกว่าในสวนเรามีครบสามารถเลี้ยงตัวเองได้เลยทีเดียว
เริ่มต้นก็เอาเศษหญ้าหรือเศษใบไม้ต่างๆมากองรวมกัน แนะนำว่ากิ่งไม้ไม่เหมาะนะครับเพราะว่าจะย่อยสลายนานกว่าใบไม้ หรือถ้าหากจะเอารวมด้วยก็ต้องหักย่อยมันให้เล็กลงซะก่อนนะครับ หรือหาเป็นไม้ที่กิ่งอ่อนๆเล็กๆก็ไม่มีปัญหาครับพอได้อยู่
จากนั้นเอาขี้วัวมาเทลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันครับ ขั้นตอนนี้ถ้าใครมีเศษทรากพืช ทรากสัตว์อะไรก็ใส่ลงไปได้นะครับแต่ก็ดูความเหมาะสมด้วย หากมีดินถุงก็ใส่เข้าไปสักถุงนึงก็ดีครับ ขี้เถ้าแกลบ อะไรต่างๆนานาใส่ไปได้เลยครับ
แต่สำหรับที่ผมลอง ผมมีแค่ขี้วัวที่ซื้อมาถุงนึง กับดินถุงหนึ่งถุงเท่านั้นครับ
เมื่อคลุกเคล้าเข้ากันดีก็ใช้น้ำราดให้ทั่วกองแล้วคลุกอีกทีให้เปียกน้ำให้หมด จากนั้นก็ใช้อีเอ็มผสมน้ำแล้วก็ราดลงไปให้ทั่วเป็นอันเสร็จ อีเอ็มหาซื้อได้ตามร้านขายปุ๋ยได้เลยครับมีหลายขนาดให้เลือกซื้อไม่ถึงร้อยก็มีครับ
จากนั้นก็ปิดด้วยถุงดำเอาหินมาทับๆหน่อย รอประมาณ อาทิตย์ก็เปิดถุงแล้วคลุกกับทีนึง ไปเรื่อยๆแล้วปิดเหมือนเดิม เรียกว่าอาทิตย์นึงคลุกทีนึง แล้วก็อย่าให้กองปุ๋ยของเราแห็งนะครับ หากเห็นว่าเริ่มแห้งก็รดน้ำเพิ่มและใส่อีเอ็มเพิ่มในกรณีที่เห็นว่ากองปุ๋ยแห้ง
หลังจากนี้อีกสองหรือสามเดือนเราก็จะได้ปุ๋ยหมักใช้ไม่ต้องเสียดายเศษไม้ใบหญ้าในสวนเราอีกแล้วครับ เรียกว่าในสวนเรามีครบสามารถเลี้ยงตัวเองได้เลยทีเดียว
วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555
บัวเลี้ยง คืออะไร
อยากจะลองเลี้ยงบัวหรือปลูกบัวสักอ่างนึงแต่ไม่รู้จักบัวเลย แล้วคนส่วนใหญ่เขาเลี้ยงบัวอะไรกันหละเห็นในอ่างเล็กๆไม่ใหญ่มากแล้วก็ออกดอกให้เห็นสวยๆเรื่อยๆ
สำหรับคนที่เริ่มต้นจะเลี้ยงบัวสักอ่างนึงแล้วไม่รู้อะไรเลย(อย่างผมเป็นต้น) เริ่มต้นก็คงจะต้องหาข้อมูลในเน็ตสักหน่อยว่าจะปลูกและดูแลอย่างไรบ้าง เมื่อได้ความรู้แล้วก็ตกใจมากว่าเลี้ยงง่ายมากๆ ผมจะบอกให้ดังนี้
บัวนั้นแค่เราหาอะไรก็ได้ใส่น้ำ้แล้วก็เอาดินเหนียวรองข้างใต้จากนั้นหาพันธุ์บัวมาปักลงไปเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องปุ๋ยนั้น ให้สามเดือนครั้งเป็นปุ๋ย 15-15-15 และก็ปุ๋ยคอก ปุ๋ยคอดนั้นมันจะลอยน้ำก็ปล่อยมันสักพักและเดี๋ยวมันจะจมไปเอง
นี่คือความง่ายของการเลี้ยงบัว ถ้าหากไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก วิธีที่ง่ายๆอีกอย่างก็คือ ไปเดินเลือกซื้อบัวที่ชอบมาสักกระถางนึงกระถางเล็กๆก็พอ หาอ่างบัวที่ชอบขนาดเท่าที่คุณต้องการเลย
ที่สำคัญอ่างบัวต้องมีลักษณะแบออก อ่างบัวที่เป็นทรงลึกมากผมไม่แนะนะเพราะว่าน้ำจะลึกทำให้บัวไม่ได้แสงแดด แต่ถ้าหากมีอ่างทรงลึกอยู่แล้วก็อาจจะแก้ได้โดยเอากระถางดินเผาวางหนุนข้างล่างก่อนแล้วเอากระถางบัวเล็กที่เราซื้อมาวางซ้อนไปเลยเพื่อให้ระดับน้ำถึงดินไม่ลึกเท่ากับความลึกของอ่างบัว
การให้ปุ๋ยอีกวิธีนึงคือ การเลี้ยงปลาหางนกยูงไว้ในอ่างบัว เมื่อเราให้อาหารเศษอาหารก็เป็นปุ๋ย อีกทั้งขี้ปลาหางนกยูงก็จะเป็นปุ๋ยธรรมชาติอย่างดี จนบางครั้ง คุณอาจจะไม่ต้องใส่ปุ๋ยให้ต้นบัวไปนานมากจนลืมได้เลยทีเดียว
ไม่เชื่อก็ลองสังเกตุอ่างบัวตามที่ต่างๆที่เลี้ยงปลาหางนกยูงเอาไว้ได้เลย อ่างนั้นบัวจะงามมากๆ...
สำหรับคนที่เริ่มต้นจะเลี้ยงบัวสักอ่างนึงแล้วไม่รู้อะไรเลย(อย่างผมเป็นต้น) เริ่มต้นก็คงจะต้องหาข้อมูลในเน็ตสักหน่อยว่าจะปลูกและดูแลอย่างไรบ้าง เมื่อได้ความรู้แล้วก็ตกใจมากว่าเลี้ยงง่ายมากๆ ผมจะบอกให้ดังนี้
บัวนั้นแค่เราหาอะไรก็ได้ใส่น้ำ้แล้วก็เอาดินเหนียวรองข้างใต้จากนั้นหาพันธุ์บัวมาปักลงไปเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องปุ๋ยนั้น ให้สามเดือนครั้งเป็นปุ๋ย 15-15-15 และก็ปุ๋ยคอก ปุ๋ยคอดนั้นมันจะลอยน้ำก็ปล่อยมันสักพักและเดี๋ยวมันจะจมไปเอง
นี่คือความง่ายของการเลี้ยงบัว ถ้าหากไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก วิธีที่ง่ายๆอีกอย่างก็คือ ไปเดินเลือกซื้อบัวที่ชอบมาสักกระถางนึงกระถางเล็กๆก็พอ หาอ่างบัวที่ชอบขนาดเท่าที่คุณต้องการเลย
ที่สำคัญอ่างบัวต้องมีลักษณะแบออก อ่างบัวที่เป็นทรงลึกมากผมไม่แนะนะเพราะว่าน้ำจะลึกทำให้บัวไม่ได้แสงแดด แต่ถ้าหากมีอ่างทรงลึกอยู่แล้วก็อาจจะแก้ได้โดยเอากระถางดินเผาวางหนุนข้างล่างก่อนแล้วเอากระถางบัวเล็กที่เราซื้อมาวางซ้อนไปเลยเพื่อให้ระดับน้ำถึงดินไม่ลึกเท่ากับความลึกของอ่างบัว
การให้ปุ๋ยอีกวิธีนึงคือ การเลี้ยงปลาหางนกยูงไว้ในอ่างบัว เมื่อเราให้อาหารเศษอาหารก็เป็นปุ๋ย อีกทั้งขี้ปลาหางนกยูงก็จะเป็นปุ๋ยธรรมชาติอย่างดี จนบางครั้ง คุณอาจจะไม่ต้องใส่ปุ๋ยให้ต้นบัวไปนานมากจนลืมได้เลยทีเดียว
ไม่เชื่อก็ลองสังเกตุอ่างบัวตามที่ต่างๆที่เลี้ยงปลาหางนกยูงเอาไว้ได้เลย อ่างนั้นบัวจะงามมากๆ...
วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555
มาเพาะ ขยายพันธุ์ คุณนายตื่นสายกันเถอะ ง่ายมาก
อยากบอกว่าต้นคุณนายตื่นสายแบ่งเป็นหลายพันธุ์นะครับลักษณะดอกใบจะต่างกันอยู่บ้างแต่ว่าการเจริญเติบโตและการเพาะพันธุ์นั้นใช้วิธีการเดียวกันครับ
เริ่มกันเลยครับ หากิ่งที่ตั้งตรงแล้วตัดเป็นท่อนๆยาวสัก 1 คืบนะครับตัดมาเยอะๆเลย จะให้ดีต้องเลือกที่ตรงๆนะครับเวลาปักชำจะได้ทำได้ง่ายๆไม่ต้องจัดกิ่งมาก เพราะว่าเราปักทีนึงหลายกิ่งครับไม่ได้ปักทีละกิ่ง
ต่อมาก็เอาดินรองก้นกระถางนิดหน่อยแล้วแบ่งกิ่งที่เราเตรียมไว้สัก 10 กิ่งวางลงไปก่อนชิดทางด้านใดด้านหนึ่ง แล้วเอาดินกลบพอประมาณ จากนั้นเอาอีกสิบกิ่งวางเรียงต่อกันมาแล้วเหมือนเดิมเอาดินกลบบางๆ เอาอีกสิบกิ่งมาวางต่อไปเรื่อยๆ ทำแบบนี้จนเต็มแน่นกระถางก็กลบดินให้เรียบร้อย
รดน้ำให้ชุ่มวางไว้ในที่ร่มสัก4-5วันก่อนออกตากแดด สังเกตว่ากิ่งที่มีดอก ดอกก็ยังพร้อมที่จะบานอยู่ นั่นแสดงถึงความเป็นง่ายของต้นคุณนายตื่นสายที่ใครๆก็สามารถเพาะและขยายพันธุ์เองได้ง่ายๆที่บ้าน ยิ่งถ้าใครปลูกเอาลงดินเลยยิ่งโตเร็วงามเร็วมาก ขอเพียงแรกๆรดน้ำให้ชุ่มๆตลอดเวลาหน่อยสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็งามแล้วครับ
ย้ำว่ารดน้ำมากๆหน่อยนะครับในสองสามวันแรก เอาไว้ในร่มก่อนก็ดีจะได้ติดเร็วๆครับ
เริ่มกันเลยครับ หากิ่งที่ตั้งตรงแล้วตัดเป็นท่อนๆยาวสัก 1 คืบนะครับตัดมาเยอะๆเลย จะให้ดีต้องเลือกที่ตรงๆนะครับเวลาปักชำจะได้ทำได้ง่ายๆไม่ต้องจัดกิ่งมาก เพราะว่าเราปักทีนึงหลายกิ่งครับไม่ได้ปักทีละกิ่ง
ต่อมาก็เอาดินรองก้นกระถางนิดหน่อยแล้วแบ่งกิ่งที่เราเตรียมไว้สัก 10 กิ่งวางลงไปก่อนชิดทางด้านใดด้านหนึ่ง แล้วเอาดินกลบพอประมาณ จากนั้นเอาอีกสิบกิ่งวางเรียงต่อกันมาแล้วเหมือนเดิมเอาดินกลบบางๆ เอาอีกสิบกิ่งมาวางต่อไปเรื่อยๆ ทำแบบนี้จนเต็มแน่นกระถางก็กลบดินให้เรียบร้อย
รดน้ำให้ชุ่มวางไว้ในที่ร่มสัก4-5วันก่อนออกตากแดด สังเกตว่ากิ่งที่มีดอก ดอกก็ยังพร้อมที่จะบานอยู่ นั่นแสดงถึงความเป็นง่ายของต้นคุณนายตื่นสายที่ใครๆก็สามารถเพาะและขยายพันธุ์เองได้ง่ายๆที่บ้าน ยิ่งถ้าใครปลูกเอาลงดินเลยยิ่งโตเร็วงามเร็วมาก ขอเพียงแรกๆรดน้ำให้ชุ่มๆตลอดเวลาหน่อยสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็งามแล้วครับ
ย้ำว่ารดน้ำมากๆหน่อยนะครับในสองสามวันแรก เอาไว้ในร่มก่อนก็ดีจะได้ติดเร็วๆครับ
วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
วิธีการปูหญ้านวลน้อย, หญ้ามาเลเซีย, หญ้าญี่ปุ่น
การปูหญ้านวลน้อยหรือว่าหญ้ามาเลหรือหญ้าญี่ปุ่นนั้นมีหลักการหลักๆที่เหมือนกันทุกประการครับดังนั้นทำตามวิธีที่ผมบอกก็สามารถเอาไปใช้ปูหญ้าได้ทุกชนิดครับ
วัสดุอุปกรณ์(มีไม่มีก็ได้)
1.ลูกกลิ้งบดอัดพื้น บอกแล้วนะครับว่ามีหรือไม่มีก็ได้ ถ้าหากว่าเราปูหญ้าในสนามหน้าบ้านของเราเอง ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากก็ใช้จอบปรับแต่งดินให้เรียบใช้จอบทุบๆอัดเอาก็ได้ครับ
2.ทรายขี้เป็ด อันนี้ถือว่าจะเป็นนะครับหากเราจะปรับสภาพพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่ ทรายขี้เป็ดนี้หาซื้อได้จากร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปครับมันเป็นทรายปนดินหรือเรียกว่าทรายถมที่ ทรายแบบนี้เอาไปผสมปูนไม่ได้ครับจะมีราคาถูกกว่าทรายธรรมดาและมีแร่ธาตุเหมาะกับการปลูกหญ้าครับ แต่ถ้าหากว่าพื้นที่ๆเราปลูกเป็นดินร่วน ถามว่าจะไม่โรยทรายขี้เป็ดเลยได้ไหมถ้าถามผมผมก็ว่าได้ครับ
ขั้นตอนการปูหญ้า
1.เริ่มจากการปรับสภาพพื้นดินให้เรียบจนเราพอใจก่อนครับ บางคนอาจจะเล่นเป็นเนินโค้งสวยๆก็ไม่ว่ากันครับ แล้วแต่ชอบ
2.จากนั้นโรยทรายขี้เป็ดให้ทั่วบางๆครับ ใช้จอบเกลี่ยๆไปให้ทั่ว ดินเราจะได้มีสารอาหารอร่อยๆให้หญ้าครับ
3.รดน้ำให้ทั่วจนสภาพพื้นที่มีความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่ม สำคัญนะครับย้ำว่าดินต้องนุ่มๆเลย
4.เตรียมหญ้านวลน้อยหรือหญ้ามาเลที่จะปูมาวางให้เต็มพื้นที่ ส่วนเกินก็ฉีกออกให้สวยงามครับ
5.จากนั้นกดหญ้าที่เราเพิ่งจะปูลงไปเมื่อกี้ให้ติดกับดินครับ นี่คือเหตุผลที่ผมบอกให้รดน้ำให้ชุ่มจริงๆครับ พยามกดให้รากหญ้าติดดินให้ได้นะครับ ใครมีลูกกลิ้งหรืออะไรใช้ได้ก็เอามาใช้ได้เลยครับ
6.ดูความเรียบร้อย แล้วรดน้ำตามให้ชุ่มเป็นอันเสร็จพิธีครับ
หลังจากนี้ก็คอยรดน้ำทุกๆวันชุ่มๆหน่อย สัก1อาทิตย์ต้นหญ้าก็น่าจะเดินรากแล้วครับ
วัสดุอุปกรณ์(มีไม่มีก็ได้)
1.ลูกกลิ้งบดอัดพื้น บอกแล้วนะครับว่ามีหรือไม่มีก็ได้ ถ้าหากว่าเราปูหญ้าในสนามหน้าบ้านของเราเอง ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากก็ใช้จอบปรับแต่งดินให้เรียบใช้จอบทุบๆอัดเอาก็ได้ครับ
2.ทรายขี้เป็ด อันนี้ถือว่าจะเป็นนะครับหากเราจะปรับสภาพพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่ ทรายขี้เป็ดนี้หาซื้อได้จากร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปครับมันเป็นทรายปนดินหรือเรียกว่าทรายถมที่ ทรายแบบนี้เอาไปผสมปูนไม่ได้ครับจะมีราคาถูกกว่าทรายธรรมดาและมีแร่ธาตุเหมาะกับการปลูกหญ้าครับ แต่ถ้าหากว่าพื้นที่ๆเราปลูกเป็นดินร่วน ถามว่าจะไม่โรยทรายขี้เป็ดเลยได้ไหมถ้าถามผมผมก็ว่าได้ครับ
ขั้นตอนการปูหญ้า
1.เริ่มจากการปรับสภาพพื้นดินให้เรียบจนเราพอใจก่อนครับ บางคนอาจจะเล่นเป็นเนินโค้งสวยๆก็ไม่ว่ากันครับ แล้วแต่ชอบ
2.จากนั้นโรยทรายขี้เป็ดให้ทั่วบางๆครับ ใช้จอบเกลี่ยๆไปให้ทั่ว ดินเราจะได้มีสารอาหารอร่อยๆให้หญ้าครับ
3.รดน้ำให้ทั่วจนสภาพพื้นที่มีความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่ม สำคัญนะครับย้ำว่าดินต้องนุ่มๆเลย
4.เตรียมหญ้านวลน้อยหรือหญ้ามาเลที่จะปูมาวางให้เต็มพื้นที่ ส่วนเกินก็ฉีกออกให้สวยงามครับ
5.จากนั้นกดหญ้าที่เราเพิ่งจะปูลงไปเมื่อกี้ให้ติดกับดินครับ นี่คือเหตุผลที่ผมบอกให้รดน้ำให้ชุ่มจริงๆครับ พยามกดให้รากหญ้าติดดินให้ได้นะครับ ใครมีลูกกลิ้งหรืออะไรใช้ได้ก็เอามาใช้ได้เลยครับ
6.ดูความเรียบร้อย แล้วรดน้ำตามให้ชุ่มเป็นอันเสร็จพิธีครับ
หลังจากนี้ก็คอยรดน้ำทุกๆวันชุ่มๆหน่อย สัก1อาทิตย์ต้นหญ้าก็น่าจะเดินรากแล้วครับ
รูปราสนิมที่เกิดกับหญ้านวลน้อยครับ [HD]
จากบทความที่แล้วนะครับว่าจะเอารูปหญ้านวลน้อยที่โดนราสนิมมาให้ดูกัน ถ้าดูจากรูปแล้วก็ต้องร้องอ๋อละครับเพราะว่าลักษณะมันเหมือนสนิมมากๆจึงได้เรียกว่าราสนิม เราไปดูรูปกันก่อนเลยครับ
มาเริ่มกันที่รูปแรกครับ เป็นการดูภาพโดยรวมของพื้นที่หญ้านวลน้อยว่ามีลักษณะอย่างไรเวลาดูห่างๆ ที่เราเห็นในภาพอาจจะไม่ชัดเจนเท่ากับดูของจริงนะครับ จะเห็นได้ว่ามุมขวาล่างเรื่อยขึ้นมาที่เห็นเป็นเงาร่มๆ ตรงนั้นหญ้าจะโดนราสนิมเกือบทั้งหมดแล้วครับ แต่ยังไม่ไปถึงหญ้าในส่วนบนของภาพอาจจะเป็นเพราะว่าทางฝั่งนั้นมีช่วงเวลาที่โดนแดดครับเลยยังไม่โดนราสนิม
ใกล้เข้าไปอีกนิดเราจะเห็นได้ชัดเลยครับว่าสภาพหญ้าแบบนี้เป็นหญ้าที่โดนแดดน้อยครับ และผมก็ค่อนข้างจะมั่นใจแล้วว่าถ้าหากรดน้ำมากและโดนแดดน้อยจะทำให้เกิดราสนิมอย่างที่เห็นครับ
ภาพนี้ก็เอามาให้ดูสภาพหญ้านวลน้อยที่โดนราสนิมบริเวณเดียวกันครับ
อ่า..ภาพนี้ดูกันชัดๆ ซูมๆแบบไฮเดฟกันเลยครับ ถ้าเห็นไม่ชัดอีกคลิกดูที่ภาพเลยนะครับจะได้ดูภาพขนาดเต็ม จะเห็นราสนิมชัดๆเลยครับ จะมีสีเหลืองอมส้มแบบที่ผมบอกไว้เลย แล้วลักษณะของหญ้าบริเวณนี้จะไม่แน่น เพราะว่าโดนแดดน้อยหรือแทบจะไม่โดนแดดเลยครับ
ผมสรุปด้วยประสบการณ์ของผมเองแล้วนะครับว่าสาเหตุที่ทำให้หญ้านวลน้อยเป็นราสนิมนั้นเกิดจาก
1.บริเวณนั้นโดนแดดน้อยหรือไม่โดนแดดเลย
2.มีความชื้นสูงหรือรดน้ำมากเกินไปหรือรดน้ำตอนกลางคืน
โดยเฉพาะเรื่องรดน้ำตอนกลางคืนนี่ผมทำประจำครับ เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นราสนิมอย่างที่ผมเป็นด้วยเหตุนี้นี่แหละครับ ตอนนี้สองอาทิตย์แล้วยังไม่หายเลยครับ เดี๋ยวคงต้องไปซื้อยาตัวใหม่มาฉีดก่อน ถ้าได้ผลยังไงจะเอาชื่อยามาบอกกันครับ
มาเริ่มกันที่รูปแรกครับ เป็นการดูภาพโดยรวมของพื้นที่หญ้านวลน้อยว่ามีลักษณะอย่างไรเวลาดูห่างๆ ที่เราเห็นในภาพอาจจะไม่ชัดเจนเท่ากับดูของจริงนะครับ จะเห็นได้ว่ามุมขวาล่างเรื่อยขึ้นมาที่เห็นเป็นเงาร่มๆ ตรงนั้นหญ้าจะโดนราสนิมเกือบทั้งหมดแล้วครับ แต่ยังไม่ไปถึงหญ้าในส่วนบนของภาพอาจจะเป็นเพราะว่าทางฝั่งนั้นมีช่วงเวลาที่โดนแดดครับเลยยังไม่โดนราสนิม
ใกล้เข้าไปอีกนิดเราจะเห็นได้ชัดเลยครับว่าสภาพหญ้าแบบนี้เป็นหญ้าที่โดนแดดน้อยครับ และผมก็ค่อนข้างจะมั่นใจแล้วว่าถ้าหากรดน้ำมากและโดนแดดน้อยจะทำให้เกิดราสนิมอย่างที่เห็นครับ
ภาพนี้ก็เอามาให้ดูสภาพหญ้านวลน้อยที่โดนราสนิมบริเวณเดียวกันครับ
อ่า..ภาพนี้ดูกันชัดๆ ซูมๆแบบไฮเดฟกันเลยครับ ถ้าเห็นไม่ชัดอีกคลิกดูที่ภาพเลยนะครับจะได้ดูภาพขนาดเต็ม จะเห็นราสนิมชัดๆเลยครับ จะมีสีเหลืองอมส้มแบบที่ผมบอกไว้เลย แล้วลักษณะของหญ้าบริเวณนี้จะไม่แน่น เพราะว่าโดนแดดน้อยหรือแทบจะไม่โดนแดดเลยครับ
ผมสรุปด้วยประสบการณ์ของผมเองแล้วนะครับว่าสาเหตุที่ทำให้หญ้านวลน้อยเป็นราสนิมนั้นเกิดจาก
1.บริเวณนั้นโดนแดดน้อยหรือไม่โดนแดดเลย
2.มีความชื้นสูงหรือรดน้ำมากเกินไปหรือรดน้ำตอนกลางคืน
โดยเฉพาะเรื่องรดน้ำตอนกลางคืนนี่ผมทำประจำครับ เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นราสนิมอย่างที่ผมเป็นด้วยเหตุนี้นี่แหละครับ ตอนนี้สองอาทิตย์แล้วยังไม่หายเลยครับ เดี๋ยวคงต้องไปซื้อยาตัวใหม่มาฉีดก่อน ถ้าได้ผลยังไงจะเอาชื่อยามาบอกกันครับ
วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
หญ้านวลน้อยโดนราสนิมอีกแล้ว
ตอนนี้หญ้านวลน้อยของผมโดนราสนิมอีกแล้วครับก็ดีเหมือนกันจะได้เอารูปมาให้ดูกันครับคราวนี้เห็นชัดๆกันไปเลยว่าเวลาหญ้านวลน้อยเป็นราสนิมนั้นจะมีลักษณะอย่างไรและต้องแก้อย่างไร
ถ้าหากว่าเราเห็นหญ้านวลน้อยมีสีเหลืองๆ อมส้มๆ และเข้าไปดูใกล้ๆก็จะเห็นว่าเป็นเหมือนลักษณะฝุ่นๆสีเหลืองอมส้มเกาะอยู่ที่ใบหญ้านวลน้อยดังภาพ ถ้าเป็นแบบนี้รู้ไว้เลยครับว่าเป็นราสนิมแล้ว และราสนิมนี้ตอนแรกอาจจะเป็นแค่หย่อมๆ เล็กๆ ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ อาจจะคิดว่าตัดหญ้าเดี๋ยวก็หายไปเองแต่ว่าไม่จริงครับถ้าปล่อยเอาไว้มันจะขยายบริเวณไปเรื่อยๆครับ
ทางเดียวที่จะแก้ราสนิมที่เกิดกับหญ้านวลน้อยก็คือ การฉีดยาฆ่าเชื้อราสนิมครับ ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เหมือนกันครับที่ผมลองอยู่ตอนนี้ จากภาพนี่ผมฉีดไปแล้วรอบนึงนะครับกำลังจะฉีดรอบสองอยู่ ยังเห็นอาการไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่ เดี๋ยวคงต้องหายาตัวใหม่มาฉีดกันแล้วหละครับ
ส่วนสาเหตุที่เป็นราสนิม ส่วนตัวผมเองเท่าที่เจอมากับตัวคิดว่าเป็นเพราะการรดน้ำมากประกอบกับมีความชื้นติดที่ใบและโดนแดดน้อย เพราะว่าจากรูปสนามหญ้าที่เป็นราสนิมของผมนั้นเป็นส่วนที่โดนแดดน้อยที่สุดครับ เพราะว่าตั้งแต่ปลายปีถึงช่วงต้นปีแดดจะหลบไปอยู่หลังบ้าน ตรงที่เป็นราสนิมแทบจะไม่ได้โดนแดดเลยครับ
ยังไงได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงก็จะมาเล่าให้ฟังกันต่อไปครับ
ถ้าหากว่าเราเห็นหญ้านวลน้อยมีสีเหลืองๆ อมส้มๆ และเข้าไปดูใกล้ๆก็จะเห็นว่าเป็นเหมือนลักษณะฝุ่นๆสีเหลืองอมส้มเกาะอยู่ที่ใบหญ้านวลน้อยดังภาพ ถ้าเป็นแบบนี้รู้ไว้เลยครับว่าเป็นราสนิมแล้ว และราสนิมนี้ตอนแรกอาจจะเป็นแค่หย่อมๆ เล็กๆ ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ อาจจะคิดว่าตัดหญ้าเดี๋ยวก็หายไปเองแต่ว่าไม่จริงครับถ้าปล่อยเอาไว้มันจะขยายบริเวณไปเรื่อยๆครับ
ทางเดียวที่จะแก้ราสนิมที่เกิดกับหญ้านวลน้อยก็คือ การฉีดยาฆ่าเชื้อราสนิมครับ ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เหมือนกันครับที่ผมลองอยู่ตอนนี้ จากภาพนี่ผมฉีดไปแล้วรอบนึงนะครับกำลังจะฉีดรอบสองอยู่ ยังเห็นอาการไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่ เดี๋ยวคงต้องหายาตัวใหม่มาฉีดกันแล้วหละครับ
ส่วนสาเหตุที่เป็นราสนิม ส่วนตัวผมเองเท่าที่เจอมากับตัวคิดว่าเป็นเพราะการรดน้ำมากประกอบกับมีความชื้นติดที่ใบและโดนแดดน้อย เพราะว่าจากรูปสนามหญ้าที่เป็นราสนิมของผมนั้นเป็นส่วนที่โดนแดดน้อยที่สุดครับ เพราะว่าตั้งแต่ปลายปีถึงช่วงต้นปีแดดจะหลบไปอยู่หลังบ้าน ตรงที่เป็นราสนิมแทบจะไม่ได้โดนแดดเลยครับ
ยังไงได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงก็จะมาเล่าให้ฟังกันต่อไปครับ
วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ไปเที่ยวไร่หญ้ากันบ้างหรือปล่าว
อยากจะบอกว่าไร่หญ้านวบน้อยนี่มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เหมือนกันนะครับ อากาศก็ดีมองไปก็เขียวขจีสบายตามากๆ ถ้าหากว่าใครเป็นเจ้าของไร่หญ้าคิดไอเดียได้ดีทำร้านอาหาร ทำร่มไม้จัดสวนบริเวณนั้นทำเป็นที่พักผ่อนท่องเที่ยวผมว่าเวิร์คแน่นอนครับ เพราะว่ามันสวยในตัวอยู่แล้ว
ประกอบกับเป็นเรื่องน่าสนใจนะครับใครบ้างจะคิดว่าการปลูกหญ้าขายนั้นเขาทำกันอย่างไร ผมเชื่อว่าถ้ามีเจ้าของไร่หญ้าคนไหนริเริ่มทำ ผมว่ามีคนสนใจไปเที่ยวพักผ่อนแน่นอน แต่ว่าก็ต้องเพิ่มสิ่งที่ดึงดูดและน่าสนใจเข้าไปในไร่ด้วยนะครับ
อย่างเช่น ถ้าแบล็คกราวด์ด้านหลังมันเป็นต้นไม้รกๆร้างๆ ก็อาจจะต้องลงทุนเอาต้นไม้ใหญ่สวยๆมาลงไว้เป็นทิวแถวให้ดูร่มรื่นสวยงาม แต่ก็ไม่ควรถึงกับปิดทึบนะครับ เพราะว่าอย่าืลืมว่าสเน่ย์ของไร่หญ้าก็คือการได้มองออกไปสุดสายตาและเป็นสีเขียวนี่แหละครับ
แน่นอนว่าอากาศในไร่ ในท้องนามีลมเย็นเอื่อยสบายๆอยู่แล้ว อาจจะหาธง หรือพู่อะไรสวยๆ สีสันสดใสมาเพิ่มบรรยากาศให้ดูคล้ายๆลมชายทะเล การที่คนได้เห็นอะไรปลิวไวนี่มันก็เป็นการผ่อนคลายอีกอย่างนึงนะครับผม เรียกว่าใช้ประโยชน์จากไร่หญ้าได้มากมายจริงๆครับ อยู่ที่ว่าเราจะใช้อย่างไรเท่านั้นเอง
ผมเองยังอยากหาโอกาสไปเที่ยวดูไร่หญ้าบ้างจังเลยครับแต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาเลย เงินก็ไม่ได้สักบาท ข้าวปลาจะไม่มีกินอยู่แล้ว ตอนนี้ทำงานไปเหมือนว่ายน้ำไม่เห็นฝั่งเลยครับแย่จริงๆ อ้าวนอกเรื่องไปหน่อยไว้ยังไงก็หาโอากาสไปเที่ยวไร่หญ้ากันดูนะครับผม
ประกอบกับเป็นเรื่องน่าสนใจนะครับใครบ้างจะคิดว่าการปลูกหญ้าขายนั้นเขาทำกันอย่างไร ผมเชื่อว่าถ้ามีเจ้าของไร่หญ้าคนไหนริเริ่มทำ ผมว่ามีคนสนใจไปเที่ยวพักผ่อนแน่นอน แต่ว่าก็ต้องเพิ่มสิ่งที่ดึงดูดและน่าสนใจเข้าไปในไร่ด้วยนะครับ
อย่างเช่น ถ้าแบล็คกราวด์ด้านหลังมันเป็นต้นไม้รกๆร้างๆ ก็อาจจะต้องลงทุนเอาต้นไม้ใหญ่สวยๆมาลงไว้เป็นทิวแถวให้ดูร่มรื่นสวยงาม แต่ก็ไม่ควรถึงกับปิดทึบนะครับ เพราะว่าอย่าืลืมว่าสเน่ย์ของไร่หญ้าก็คือการได้มองออกไปสุดสายตาและเป็นสีเขียวนี่แหละครับ
แน่นอนว่าอากาศในไร่ ในท้องนามีลมเย็นเอื่อยสบายๆอยู่แล้ว อาจจะหาธง หรือพู่อะไรสวยๆ สีสันสดใสมาเพิ่มบรรยากาศให้ดูคล้ายๆลมชายทะเล การที่คนได้เห็นอะไรปลิวไวนี่มันก็เป็นการผ่อนคลายอีกอย่างนึงนะครับผม เรียกว่าใช้ประโยชน์จากไร่หญ้าได้มากมายจริงๆครับ อยู่ที่ว่าเราจะใช้อย่างไรเท่านั้นเอง
ผมเองยังอยากหาโอกาสไปเที่ยวดูไร่หญ้าบ้างจังเลยครับแต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาเลย เงินก็ไม่ได้สักบาท ข้าวปลาจะไม่มีกินอยู่แล้ว ตอนนี้ทำงานไปเหมือนว่ายน้ำไม่เห็นฝั่งเลยครับแย่จริงๆ อ้าวนอกเรื่องไปหน่อยไว้ยังไงก็หาโอากาสไปเที่ยวไร่หญ้ากันดูนะครับผม
เพลี๊ยลงหญ้านวลน้อย
เพลี๊ยลงหญ้านวลน้อยครับ การแก้ไขเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ
ผมไม่รู้นะครับว่าใครคนไหนบ้างที่จะหลงรักหญ้านวลน้อยดูแลเอาใจใ่ส่ขนาดนี้บ้าง จนเจอจนพบปัญหาที่เกิดขึ้นกับหญ้านวลน้อย จะมีใครคิดบ้างครับว่าหญ้า ต้นหญ้าจะมีโรค มีศัตรูพืชกับเขาได้เหมือนกัน เอาละครับว่าแล้วเพลี๊ยก็ลงทันที
จากรูปเห็นได้ชัดเลยนะครับว่าใบมีลักษณะหงิกงอผิดปรกติ ใบก็มีลักษณะหดเรียวแหลมเป็นเส้นตรง จากที่เห็นผมเลยเอาไปให้ร้านขายยากำจัดวัชพืชดู เขาบอกว่าน่าจะโดนเพลี๊ยนี่แหละแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพลี๊ยอะไร เพราะเขาไม่เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน
สรุปแล้วก็เอายาฉีดเพลี๊ยมาฉีดครับปรากฏว่าได้ผล ผมก็เลยสรุปเอาว่ามันน่าจะเป็นเพราะเพลี๊ยลงนี่เเหละครับ เพราะว่าถ้าเป็นพวกราอะไรต่างๆเราจะเห็นมันเกาะที่ใบซะมากกว่าอย่างราสนิมที่เล่าให้ฟังที่ผ่านมานั่นแหละครับ
เอาเป็นว่าถ้าเห็นหญ้านวลน้อยเดี้ยงแบบผมไม่ต้องกังวลครับซื้อยาฉีดเพลี๊ยมาฉีดซึ่งจะมียาฉีดเพลี๊ยบางชนิดที่สามารถป้องกันได้หลายชนิดครับ ยกตัวอย่างเช่น พอสซ์ ครับลองใช้ดูแล้วกัน
ผมไม่รู้นะครับว่าใครคนไหนบ้างที่จะหลงรักหญ้านวลน้อยดูแลเอาใจใ่ส่ขนาดนี้บ้าง จนเจอจนพบปัญหาที่เกิดขึ้นกับหญ้านวลน้อย จะมีใครคิดบ้างครับว่าหญ้า ต้นหญ้าจะมีโรค มีศัตรูพืชกับเขาได้เหมือนกัน เอาละครับว่าแล้วเพลี๊ยก็ลงทันที
จากรูปเห็นได้ชัดเลยนะครับว่าใบมีลักษณะหงิกงอผิดปรกติ ใบก็มีลักษณะหดเรียวแหลมเป็นเส้นตรง จากที่เห็นผมเลยเอาไปให้ร้านขายยากำจัดวัชพืชดู เขาบอกว่าน่าจะโดนเพลี๊ยนี่แหละแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพลี๊ยอะไร เพราะเขาไม่เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน
สรุปแล้วก็เอายาฉีดเพลี๊ยมาฉีดครับปรากฏว่าได้ผล ผมก็เลยสรุปเอาว่ามันน่าจะเป็นเพราะเพลี๊ยลงนี่เเหละครับ เพราะว่าถ้าเป็นพวกราอะไรต่างๆเราจะเห็นมันเกาะที่ใบซะมากกว่าอย่างราสนิมที่เล่าให้ฟังที่ผ่านมานั่นแหละครับ
เอาเป็นว่าถ้าเห็นหญ้านวลน้อยเดี้ยงแบบผมไม่ต้องกังวลครับซื้อยาฉีดเพลี๊ยมาฉีดซึ่งจะมียาฉีดเพลี๊ยบางชนิดที่สามารถป้องกันได้หลายชนิดครับ ยกตัวอย่างเช่น พอสซ์ ครับลองใช้ดูแล้วกัน
วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
โรคของหญ้านวลน้อย ราสนิม วิธีแก้ไข
โรคที่เกิดกับหญ้านวลน้อยเท่าที่ผมพบและเจอมาก็มีอยู่ 2 อย่างครับคือเพลี๊ยลง กับราสนิม เรามาดูลักษณะของโรคและการแก้ไขกันครับ
เรามาดูราสนิมกับหญ้านวลน้อยก่อนนะครับ
ในภาพอาจจะไม่ใช่หญ้านวลน้อยแต่ว่านั่นคือราสนิมที่ผมเคยเจอในสนามหญ้านวลน้อยที่ผมเพาะเองครับ เรียกได้ว่าขึ้นเต็มไปหมด ตอนแรกผมแก้ปัญหาด้วยการตัดหญ้าบ่อยๆ กะว่าพอตัดบ่อยๆเดี๋ยวมันก็หมดไปเองไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่วันแล้ววันเล่าเริ่มมากขึ้นๆ ลุกลามไปทั่วสนามเลยลองเด็ดหญ้าที่เป็นราสนิมไปให้ร้านขายยาฉีดวัชพืชดูเขาบอกว่าเป็นราสนิมต้องใช้ยาผสมน้ำฉีด ส่วนชื่อยาที่ใช้ผมจำไม่ได้แล้วครับต้องขออภัยจริงๆ แต่ว่าไปถามร้านได้ครับว่าเอายาฉีดราสนิม เดี๋ยวร้านเค้าจัดให้เองครับไม่ต้องห่วง
สรุปแล้วถ้าหญ้านวลน้อยมีราสนิมวิธีการแก้ทางเดียวคือต้องฉีดยาครับ ส่วนสาเหตุที่เป็นราสนิมน่าจะมาจากน้ำที่ใช้รด และความชื้นที่ให้หญ้านวลน้อยอาจจะมากเกินไปจนเกิดเป็นน้ำค้างบนใบหญ้าทำให้เกิดราสนิมขึ้นได้ครับ
ยังไงก็ขอให้สนามหญ้าเขียวๆกันทุกบ้านเลยนะครับผม ขอบคุณครับ
เรามาดูราสนิมกับหญ้านวลน้อยก่อนนะครับ
ในภาพอาจจะไม่ใช่หญ้านวลน้อยแต่ว่านั่นคือราสนิมที่ผมเคยเจอในสนามหญ้านวลน้อยที่ผมเพาะเองครับ เรียกได้ว่าขึ้นเต็มไปหมด ตอนแรกผมแก้ปัญหาด้วยการตัดหญ้าบ่อยๆ กะว่าพอตัดบ่อยๆเดี๋ยวมันก็หมดไปเองไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่วันแล้ววันเล่าเริ่มมากขึ้นๆ ลุกลามไปทั่วสนามเลยลองเด็ดหญ้าที่เป็นราสนิมไปให้ร้านขายยาฉีดวัชพืชดูเขาบอกว่าเป็นราสนิมต้องใช้ยาผสมน้ำฉีด ส่วนชื่อยาที่ใช้ผมจำไม่ได้แล้วครับต้องขออภัยจริงๆ แต่ว่าไปถามร้านได้ครับว่าเอายาฉีดราสนิม เดี๋ยวร้านเค้าจัดให้เองครับไม่ต้องห่วง
สรุปแล้วถ้าหญ้านวลน้อยมีราสนิมวิธีการแก้ทางเดียวคือต้องฉีดยาครับ ส่วนสาเหตุที่เป็นราสนิมน่าจะมาจากน้ำที่ใช้รด และความชื้นที่ให้หญ้านวลน้อยอาจจะมากเกินไปจนเกิดเป็นน้ำค้างบนใบหญ้าทำให้เกิดราสนิมขึ้นได้ครับ
ยังไงก็ขอให้สนามหญ้าเขียวๆกันทุกบ้านเลยนะครับผม ขอบคุณครับ
ไปดูระบบสปริงเกอร์ของฝรั่งกันครับ
ระบบสปริงเกอร์นั้นสำคัญมากๆครับกับการเพาะหญ้านวลน้อย ถ้าหากว่าระบบการรดน้ำดีให้ความชุ่มชื้นและความเย็นได้สม่ำเสมอ หญ้านวลน้อยก็จะเจริญเติบโตได้ดี และเขียวเต็มพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วครับ
วันนี้เลยว่างๆนั่งหาคลิประบบสปริงเกอร์ของต่างประเทศมาให้ดูกัน ลองไปดูกันครับเดี๋ยวมานั่งคุยกันต่อ
ต้องบอกว่าฝรั่งนี่เขาอุปกรณ์พร้อมจริงๆ ขนาดขุดดินยังไม่ต้องขุดเลยครับ มีรถขุดดินซะอีกและเชื่อได้เลยว่ามันต้องเลือกระดับความลึกในการขุดเลือกขนาดความกว้างในการขุดได้อีกแน่นอน เห็นแล้วก็อยากจะรวยเหมือนกันนะครับได้มีเวลาทำสวน แต่งสวนไปเรื่อยๆ ชีวิตคงมีแต่ความเพลิดเพลินไม่ต้องคิดอะไรมากให้ปวดหัว
วันวันก็เห็นแต่สีเขียว สุขภาพก็ดีตามไปด้วย ผมเองก็เพาะหญ้านวลน้อยนะครับ บอกได้เลยว่าถ้าเพาะแบบปักชำต้องปักถี่ๆนะ ประกันว่า 3 เดือนเต็มผืน แต่ถ้าหากว่าปักชำแบบห่างมากๆบอกได้ว่าเกินสามเดือนแน่นอนอันนี้ผมลองมาแล้วเลยบอกบทสรุปให้ฟัง
แล้วเรื่องความชื้นดินต้องชุ่มตลอดเวลาแต่ไม่ขังนะครับ เรียกว่าให้ดินนั้นอ่อนๆตลอดเพื่อให้หญ้าสามารถไชรากได้ตลอดเวลานั่นเอง ก็นึกดูละครับว่าถ้าดินเเข็งรากมันจะเดินสะดวกได้อย่างไร ถึงได้บอกให้ศึกษาเรื่องการรดน้ำหรือว่าสปริงเกอร์กัีนให้เยอะๆนี่แหละครับ
วันนี้เลยว่างๆนั่งหาคลิประบบสปริงเกอร์ของต่างประเทศมาให้ดูกัน ลองไปดูกันครับเดี๋ยวมานั่งคุยกันต่อ
ต้องบอกว่าฝรั่งนี่เขาอุปกรณ์พร้อมจริงๆ ขนาดขุดดินยังไม่ต้องขุดเลยครับ มีรถขุดดินซะอีกและเชื่อได้เลยว่ามันต้องเลือกระดับความลึกในการขุดเลือกขนาดความกว้างในการขุดได้อีกแน่นอน เห็นแล้วก็อยากจะรวยเหมือนกันนะครับได้มีเวลาทำสวน แต่งสวนไปเรื่อยๆ ชีวิตคงมีแต่ความเพลิดเพลินไม่ต้องคิดอะไรมากให้ปวดหัว
วันวันก็เห็นแต่สีเขียว สุขภาพก็ดีตามไปด้วย ผมเองก็เพาะหญ้านวลน้อยนะครับ บอกได้เลยว่าถ้าเพาะแบบปักชำต้องปักถี่ๆนะ ประกันว่า 3 เดือนเต็มผืน แต่ถ้าหากว่าปักชำแบบห่างมากๆบอกได้ว่าเกินสามเดือนแน่นอนอันนี้ผมลองมาแล้วเลยบอกบทสรุปให้ฟัง
แล้วเรื่องความชื้นดินต้องชุ่มตลอดเวลาแต่ไม่ขังนะครับ เรียกว่าให้ดินนั้นอ่อนๆตลอดเพื่อให้หญ้าสามารถไชรากได้ตลอดเวลานั่นเอง ก็นึกดูละครับว่าถ้าดินเเข็งรากมันจะเดินสะดวกได้อย่างไร ถึงได้บอกให้ศึกษาเรื่องการรดน้ำหรือว่าสปริงเกอร์กัีนให้เยอะๆนี่แหละครับ
วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ตู้ปลาหางนกยูง จัดสวยๆ ง่ายๆ
วันนี้เอารูปตู้ปลาหางนกยูงมาให้ดูกันครับ เป็นตู้ของผมเองนั่นแหละครับ ขนาดเล็กมากประมาณ 10 นิ้วได้ ก็กะจะเอามาเลี้ยงปลาหางนกยูงสวยๆสักสองสามตัวครับ การจัดตู้ปลาหางนกยูงให้สวยนั้นไม่ยากเลยไปลองดูกันครับ
จากรูปจะเห็นว่าผมไม่ได้ใช้ทรายรองก้นตู้นะครับเพราะว่าผมคิดที่จะล้างตู้บ่อยๆ เพราะว่าตู้เล็กนิดเดียวไม่ได้ยากเย็นอะไร และก็อยากให้ตู้เล็กๆแบบนี้สวยตลอดเวลาก็ต้องทำให้สะอาดตลอดเวลานั่นเองแหละครับ ผมใช้หินก้อนใหญ่สี่ห้าก้อนเรียงกันตรงกลาง เพื่อเอาขอนไม้มาตั้งลงไปดื้อๆเลยครับ
หากว่าใครมีทุนหน่อยก็ซื้อหินที่เป็นซอกซอนสวยๆมาวางก้อนเดียวตรงกลางก็ได้ครับ จะสวยกว่านี้ได้อีก อันนี้พอดีผมเอาหินจากตู้ใหญ่แบ่งมาครับ ใช้อุปกรณ์เท่าที่มีอยู่แล้วทำครับ
แล้วทีเด็ดก็คือสาหร่ายหางกระรอกนี่แหละครับ เท่านี้ก็รู้สึกได้ว่ามีธรรมชาติเล็กๆให้เราได้นั่งมองสีเขียวสวยๆได้เเล้วครับ เวลาเอาปลาลงก็ยิ่งนุ่มนวลใหญ่เลยครับ เพราะว่าปลาหางนกยูงมันจะเล่นต้นไม้อยู่แล้ว
งานนี้เพียงเท่านี้เองครับใครที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการเลี้ยงปลาเท่าไหร่ ก็แนะนำให้เลี้ยงปลาหางนกยูงกับสาหร่ายหางกระรอกนี่แหละครับ เป็นอะไรที่เบสิกที่สุดแล้วในการเลี้ยงปลา
ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงปลาหางนกยูงในตู้ที่เราจัดเองสวยๆมากๆนะครับผม
จากรูปจะเห็นว่าผมไม่ได้ใช้ทรายรองก้นตู้นะครับเพราะว่าผมคิดที่จะล้างตู้บ่อยๆ เพราะว่าตู้เล็กนิดเดียวไม่ได้ยากเย็นอะไร และก็อยากให้ตู้เล็กๆแบบนี้สวยตลอดเวลาก็ต้องทำให้สะอาดตลอดเวลานั่นเองแหละครับ ผมใช้หินก้อนใหญ่สี่ห้าก้อนเรียงกันตรงกลาง เพื่อเอาขอนไม้มาตั้งลงไปดื้อๆเลยครับ
หากว่าใครมีทุนหน่อยก็ซื้อหินที่เป็นซอกซอนสวยๆมาวางก้อนเดียวตรงกลางก็ได้ครับ จะสวยกว่านี้ได้อีก อันนี้พอดีผมเอาหินจากตู้ใหญ่แบ่งมาครับ ใช้อุปกรณ์เท่าที่มีอยู่แล้วทำครับ
แล้วทีเด็ดก็คือสาหร่ายหางกระรอกนี่แหละครับ เท่านี้ก็รู้สึกได้ว่ามีธรรมชาติเล็กๆให้เราได้นั่งมองสีเขียวสวยๆได้เเล้วครับ เวลาเอาปลาลงก็ยิ่งนุ่มนวลใหญ่เลยครับ เพราะว่าปลาหางนกยูงมันจะเล่นต้นไม้อยู่แล้ว
งานนี้เพียงเท่านี้เองครับใครที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการเลี้ยงปลาเท่าไหร่ ก็แนะนำให้เลี้ยงปลาหางนกยูงกับสาหร่ายหางกระรอกนี่แหละครับ เป็นอะไรที่เบสิกที่สุดแล้วในการเลี้ยงปลา
ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงปลาหางนกยูงในตู้ที่เราจัดเองสวยๆมากๆนะครับผม
วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ปลูกหญ้ามาเลแบบปักชำ
พอดีว่าที่บ้านมีที่เหลืออยู่นิดนึงครับตรงที่ที่ว่านี้โดนแดดน้อยผมก็เลยเอาหญ้านวลน้อยออกแล้วก็เด็ดหญ้ามาเลที่ยาวๆรกๆหลังบ้านมาหย่อมนึงแล้วก็ มาตัดเป็นข้อๆีครับยาวสัก 2 นิ้ว แต่ก็ต้องตัดข้อเว้นข้อนะครับ ไม่ใช่ว่าตัดตรงใบ
เป็นง่ายอย่างที่คิดเลยครับรดน้ำหนักๆหน่อย วันสองวันก็ใบชี้ฟ้าแล้วครับเมื่อใบตั้งชี้แล้วก็ดีใจได้เลยครับว่า หญ้ามาเลที่ปักลงดินไปนั้นไม่ตายแน่นอน ถามต่อว่าแล้วมันจะเต็มพื้นที่เมื่อไหร่ จะเต็มได้อย่างไรในเมื่อเราปักแบบนี้ คำตอบคือ ให้เราปักเอียงๆครับเวลามันเติบโตมันจะได้เติบโตทางแนวนอนราบไปตามพื้นครับ
อีกทางนึงก็คือปล่อยให้ต้นเติบโตเจริญสักพักนึงเมื่อเห็นยาวพอสมควรแล้วก็ให้คอยเดินย่ำๆมันครับ หรือทดลองเอาถุงดินทับไว้ก็ได้ครับ ก่อนทับก็รดน้ำให้ดินชุ่มๆนะครับ เวลาหญ้าที่โดนกดลงไปถูกดินจะได้เกาะ ลองดูครับทับไว้สักคืนนึง แล้วตอนเช้าก็เอาถุงดินที่ทับออก
ไม่ต้องไปแคร์นะครับว่าไม่เห็นมันจะเกาะดินเลย อย่าเพิ่งไปซีเรียสครับ เราเพียงแค่ต้องการให้มันเติบโตทางแนวนอนเท่านั้น
อีกวิธีคือขยันตัดบ่อยๆครับ แต่อันนี้ผมยังไม่แนะนำให้ตัดตอนที่เพิ่งจะปลูกใหม่ๆนะครับ รอให้มั่นใจว่ารากหญ้าลงดินดีแน่นแล้วก่อนค่อยตัดดีกว่า เพราะว่าตอนที่ตัดหญ้าอาจจะหลุดมาทั้งต้นที่เราปักไว้ก็ได้ครับ
ภาพนีี้เป็นหญ้ามาเลที่ปักได้สองสามวันครับ จะเห็นว่าเป็นเกือบทั้งหมดไม่มีตายเลย ขึ้นชื่อว่าหญ้าแล้วมั่นใจได้เลยครับว่าเป็นง่าย ถ้าใครปลูกหญ้าไม่ขึ้นก็คงจะแน่แล้วครับว่าไหม...
และสำคัญมากๆครับคอยพรมน้ำให้ชุ่มไว้นะครับช่วงที่รากกำลังจะลงดินนี่อย่าปล่อยให้ดินเเข็งเด็ดขาดเลยครับ ไม่งั้นดินจะมับรากหญ้าแล้วจะโตงอกรากได้ช้าครับ เอาไว้จะเอาภาพตอนหญ้ามาเลเจริญกว่านี้มาให้ดูกันนะครับว่ามันจะเต็มพื้นที่ได้ไหม...
เป็นง่ายอย่างที่คิดเลยครับรดน้ำหนักๆหน่อย วันสองวันก็ใบชี้ฟ้าแล้วครับเมื่อใบตั้งชี้แล้วก็ดีใจได้เลยครับว่า หญ้ามาเลที่ปักลงดินไปนั้นไม่ตายแน่นอน ถามต่อว่าแล้วมันจะเต็มพื้นที่เมื่อไหร่ จะเต็มได้อย่างไรในเมื่อเราปักแบบนี้ คำตอบคือ ให้เราปักเอียงๆครับเวลามันเติบโตมันจะได้เติบโตทางแนวนอนราบไปตามพื้นครับ
อีกทางนึงก็คือปล่อยให้ต้นเติบโตเจริญสักพักนึงเมื่อเห็นยาวพอสมควรแล้วก็ให้คอยเดินย่ำๆมันครับ หรือทดลองเอาถุงดินทับไว้ก็ได้ครับ ก่อนทับก็รดน้ำให้ดินชุ่มๆนะครับ เวลาหญ้าที่โดนกดลงไปถูกดินจะได้เกาะ ลองดูครับทับไว้สักคืนนึง แล้วตอนเช้าก็เอาถุงดินที่ทับออก
ไม่ต้องไปแคร์นะครับว่าไม่เห็นมันจะเกาะดินเลย อย่าเพิ่งไปซีเรียสครับ เราเพียงแค่ต้องการให้มันเติบโตทางแนวนอนเท่านั้น
อีกวิธีคือขยันตัดบ่อยๆครับ แต่อันนี้ผมยังไม่แนะนำให้ตัดตอนที่เพิ่งจะปลูกใหม่ๆนะครับ รอให้มั่นใจว่ารากหญ้าลงดินดีแน่นแล้วก่อนค่อยตัดดีกว่า เพราะว่าตอนที่ตัดหญ้าอาจจะหลุดมาทั้งต้นที่เราปักไว้ก็ได้ครับ
ภาพนีี้เป็นหญ้ามาเลที่ปักได้สองสามวันครับ จะเห็นว่าเป็นเกือบทั้งหมดไม่มีตายเลย ขึ้นชื่อว่าหญ้าแล้วมั่นใจได้เลยครับว่าเป็นง่าย ถ้าใครปลูกหญ้าไม่ขึ้นก็คงจะแน่แล้วครับว่าไหม...
และสำคัญมากๆครับคอยพรมน้ำให้ชุ่มไว้นะครับช่วงที่รากกำลังจะลงดินนี่อย่าปล่อยให้ดินเเข็งเด็ดขาดเลยครับ ไม่งั้นดินจะมับรากหญ้าแล้วจะโตงอกรากได้ช้าครับ เอาไว้จะเอาภาพตอนหญ้ามาเลเจริญกว่านี้มาให้ดูกันนะครับว่ามันจะเต็มพื้นที่ได้ไหม...
วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
สนามหญ้าหลังจากอัดน้ำครับ
มาตามสัญญาครับ ภาพสนามหญ้าที่อัดน้ำซะจนอิ่มจะเห็นว่าเขียวได้ดังใจแบบภาพนั่นแหละครับ ถามว่าแล้วก่อนหน้านี้ทำไมมันเหลือง ตอบได้เลยครับว่าผมปล่อยเอาไว้เฉยๆไม่ได้รดน้ำเลย เรียกว่าปล่อยไว้จนดินแข็งอะครับ พูดง่ายๆ
เคยลองเอามือไปกดกดดินดูนะครับ ปรากฏว่ากดไม่ลงอะ สภาพเหมือนดินเหนียวที่แห้งแล้วแข็งสุดๆ น่าจะนึกออกนะครับเวลาดินเหนียวมันแข็งนั้นจะแข็งขนาดไหน เรียกว่าต้นไม้อะไรก็ขึ้นยากครับ ดินเหนียวนั้นบางทีเวลาที่มันเปียกอยู่เนี่ยก็มีข้อดีนะครัีบเพราะว่ารากต้นไม้สามารถแนบแน่นเข้ากับดินได้ดี ปลูกต้นไม้ก็ง่ายเพราะว่ามันอุ้มน้ำ
แต่ข้อเสียของมันก็คือถ้าหากว่ามันแห้งเมื่อไหร่เมื่อนั้นหละครับต้นไม้คุณจะเหมือนถูกแช่แข็งรากเดินไม่ได้ อากาศไม่มี โตก็ไม่โต แล้วแก้ยากด้วยครับ นอกจากว่าจะเปลี่ยนดินหรืออัดน้ำก่อนก็ได้ค่อยเปลี่ยนดิน ก็จะทำให้รากเสียหายน้อยกว่า
บางครั้งบางทีเราเคยคิดมากไปครับเรื่องการปลูกต้นไม้ สิ่งที่สำคัญที่สุดและควรทำสม่ำเสมอมีอย่างเดียวก็คือรดน้ำให้ความชื้นอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวต้นไม้เขียวเองครับ ปุ๋ยก็เดือนนึงก็ลุยใส่สักทีนึงแค่นี้เองครับ แต่เพิ่มนิดนึงถ้าหากเจอแมลงกินผมว่ารีบฉีดยาเลยครับ ไม่งั้นเสียเวลาต้นไม้โตครับ
เคยลองเอามือไปกดกดดินดูนะครับ ปรากฏว่ากดไม่ลงอะ สภาพเหมือนดินเหนียวที่แห้งแล้วแข็งสุดๆ น่าจะนึกออกนะครับเวลาดินเหนียวมันแข็งนั้นจะแข็งขนาดไหน เรียกว่าต้นไม้อะไรก็ขึ้นยากครับ ดินเหนียวนั้นบางทีเวลาที่มันเปียกอยู่เนี่ยก็มีข้อดีนะครัีบเพราะว่ารากต้นไม้สามารถแนบแน่นเข้ากับดินได้ดี ปลูกต้นไม้ก็ง่ายเพราะว่ามันอุ้มน้ำ
แต่ข้อเสียของมันก็คือถ้าหากว่ามันแห้งเมื่อไหร่เมื่อนั้นหละครับต้นไม้คุณจะเหมือนถูกแช่แข็งรากเดินไม่ได้ อากาศไม่มี โตก็ไม่โต แล้วแก้ยากด้วยครับ นอกจากว่าจะเปลี่ยนดินหรืออัดน้ำก่อนก็ได้ค่อยเปลี่ยนดิน ก็จะทำให้รากเสียหายน้อยกว่า
บางครั้งบางทีเราเคยคิดมากไปครับเรื่องการปลูกต้นไม้ สิ่งที่สำคัญที่สุดและควรทำสม่ำเสมอมีอย่างเดียวก็คือรดน้ำให้ความชื้นอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวต้นไม้เขียวเองครับ ปุ๋ยก็เดือนนึงก็ลุยใส่สักทีนึงแค่นี้เองครับ แต่เพิ่มนิดนึงถ้าหากเจอแมลงกินผมว่ารีบฉีดยาเลยครับ ไม่งั้นเสียเวลาต้นไม้โตครับ
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
สปริงเกอร์ป๊อบอัพอีกแบบครับ
ตัวนี้จะเลือกหัวฉีดได้ เลือกปริมาณน้ำ เลือกความไกลได้นะครับ องศาก็เลือกได้ครับ จริงๆแล้วผมผังไว้รอบบ้านเรียบร้อยแล้วแต่ว่าตัวนี้เอาไว้เป็นตัวเคลื่อนที่ครับ เพราะว่าตัวที่ฝังดินบางทีก็มีมุมอับที่ฉีดไม่ได้เหมือนกัน และก็จะได้ให้เพื่อนๆดูด้วยครับว่าข้างล่างปริงเกอร์แบบนี้มันมีอะไรบ้าง
ต้องบอกนะครับว่าประหยัดน้ำ้มากครับ เพราะว่าลองจับเวลาดูแล้วหากเป็นหัวฉีดแบบสเปรย์ประมาณ 1 ชม. ให้น้ำประมาณ 2 กะละมังครับ แต่ถ้าเป็นหัวฉีดที่ต้องใช้ปริมาณน้ำมากหน่อยอย่างจะรดน้ำสนามหญ้าก็ใช้น้ำมากขึ้นตามไปครับ
ตัวนี้ผมเอาไว้อัดน้ำต้นโมกซะมากกว่าครับเพราะว่าโมกรอบบ้านกำลังเฉา ต้องฉีดให้ชื้นไว้ตลอดครับ อ้อหลายๆคน อาจไม่เคยรู้นะครับว่าเวลาโมกเฉาหรือว่าใบร่วงให้อัดน้ำเลยครับ ยิ่งรดน้ำมากเท่าไหร่ใบยิ่งแตกเยอะเท่านั้นครับ
แล้วอีกอย่างที่ใช้อันนี้ได้ดีก็คือการฉีดละอองน้ำครับ เปิดทิ้งไว้ทั้งวันบางทีเห็นนกมาเล่นน้ำเลยครับ ฉีดละอองน้ำนี่ก็ฉีดให้สนามหญ้าเวลาร้อนๆกลางวันครับ แล้วจะเอาภาพสนามหญ้าเขียวๆมาให้ดูกันครับหลังจากอัดน้ำไปครับ
ต้องบอกนะครับว่าประหยัดน้ำ้มากครับ เพราะว่าลองจับเวลาดูแล้วหากเป็นหัวฉีดแบบสเปรย์ประมาณ 1 ชม. ให้น้ำประมาณ 2 กะละมังครับ แต่ถ้าเป็นหัวฉีดที่ต้องใช้ปริมาณน้ำมากหน่อยอย่างจะรดน้ำสนามหญ้าก็ใช้น้ำมากขึ้นตามไปครับ
ตัวนี้ผมเอาไว้อัดน้ำต้นโมกซะมากกว่าครับเพราะว่าโมกรอบบ้านกำลังเฉา ต้องฉีดให้ชื้นไว้ตลอดครับ อ้อหลายๆคน อาจไม่เคยรู้นะครับว่าเวลาโมกเฉาหรือว่าใบร่วงให้อัดน้ำเลยครับ ยิ่งรดน้ำมากเท่าไหร่ใบยิ่งแตกเยอะเท่านั้นครับ
แล้วอีกอย่างที่ใช้อันนี้ได้ดีก็คือการฉีดละอองน้ำครับ เปิดทิ้งไว้ทั้งวันบางทีเห็นนกมาเล่นน้ำเลยครับ ฉีดละอองน้ำนี่ก็ฉีดให้สนามหญ้าเวลาร้อนๆกลางวันครับ แล้วจะเอาภาพสนามหญ้าเขียวๆมาให้ดูกันครับหลังจากอัดน้ำไปครับ
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555
รดน้ำต้นไม้กันอย่างไรบ้าง
เมื่อเราปลูกต้นไม้แล้วก็แน่นอนว่าเราก็ต้องรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยมันอย่างสม่ำเสมอ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆรดน้ำต้นไม้กันอย่างไรบ้างครับ มีวิธีที่ทุ่นแรงหรือว่าสนุกสนานได้ในการรดน้ำหรือปล่าวครับ
การรดน้ำต้นไม้บางทีก็เป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงเราเหมือนกันนะครับ เพราะบางทีสนามหญ้าก็ต้องใช้เวลาในการรดน้ำค่อนข้างมาก แม้จะเป็นสนามหญ้าที่มีขนาดเล็กๆก็ตาม พื้นดินใต้สนามหญ้านั้นต้องการความชื้นบางทีการที่เราราดน้ำลงไปแล้วก็ผ่านไปเลยนั้นอาจจะไม่ได้ลงและซึมลงดินได้ดีเท่ากับการที่เรารดน้ำโดยการรดซ้ำบริเวณนั้นอยู่พอสมควร เหตุนี้เราจึงเห็นว่าสนามหญ้าควรจะใช้สปริงเกอร์ในการรดครับ
แล้วหากว่าเราปลูกไม้พุ่มเตี้ยอยู่บ้างก็เหมาะเหมือนกันครับ เพราะว่าการให้น้ำทางใบก็เป็นการบำรุงต้นไม้ได้ดีอีดวิธีหนึ่งแทนที่จะให้น้ำทางรากที่อยู่ใต้ดินอย่างเดียว ทำให้พืชดูดซึมอาหารไปใช้ได้เร็วยิ่งขึ้นครับ
อย่างในภาพที่ผมใช้ก็เป็นสปริงเกอร์แบบฝังดินนะครับ อันละร้อยกว่าบาทถ้าซื้อในเวป แต่ถ้าซื้อที่โฮมโปรจะแพงหน่อยครับ เพราะว่ไปซื้อมาแล้วหลายอันเลย
สวนผมก็ฝังเอาไว้รอบแล้วครับ แต่ว่าอันนี้ต่อไว้รดแบบเฉพาะกิจเวลาต้องการเน้นรดน้ำบริเวณไหนมากหน่อยก็ใช้ตัวนี้ยกไปตั้งรดย้ำบริเวณที่ผมต้องการครับ
แล้วจากนี้เราก็เอาเวลารดน้ำไปดูแลต้นไม้ดีกว่าครับ เรียกว่าเป็นการใช้เวลาให้คุ้มค่าอีกด้วยนะครับ การใช้ปริงเกอร์ช่วยรดน้ำต้นไม้แบบนี้
การรดน้ำต้นไม้บางทีก็เป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงเราเหมือนกันนะครับ เพราะบางทีสนามหญ้าก็ต้องใช้เวลาในการรดน้ำค่อนข้างมาก แม้จะเป็นสนามหญ้าที่มีขนาดเล็กๆก็ตาม พื้นดินใต้สนามหญ้านั้นต้องการความชื้นบางทีการที่เราราดน้ำลงไปแล้วก็ผ่านไปเลยนั้นอาจจะไม่ได้ลงและซึมลงดินได้ดีเท่ากับการที่เรารดน้ำโดยการรดซ้ำบริเวณนั้นอยู่พอสมควร เหตุนี้เราจึงเห็นว่าสนามหญ้าควรจะใช้สปริงเกอร์ในการรดครับ
แล้วหากว่าเราปลูกไม้พุ่มเตี้ยอยู่บ้างก็เหมาะเหมือนกันครับ เพราะว่าการให้น้ำทางใบก็เป็นการบำรุงต้นไม้ได้ดีอีดวิธีหนึ่งแทนที่จะให้น้ำทางรากที่อยู่ใต้ดินอย่างเดียว ทำให้พืชดูดซึมอาหารไปใช้ได้เร็วยิ่งขึ้นครับ
อย่างในภาพที่ผมใช้ก็เป็นสปริงเกอร์แบบฝังดินนะครับ อันละร้อยกว่าบาทถ้าซื้อในเวป แต่ถ้าซื้อที่โฮมโปรจะแพงหน่อยครับ เพราะว่ไปซื้อมาแล้วหลายอันเลย
สวนผมก็ฝังเอาไว้รอบแล้วครับ แต่ว่าอันนี้ต่อไว้รดแบบเฉพาะกิจเวลาต้องการเน้นรดน้ำบริเวณไหนมากหน่อยก็ใช้ตัวนี้ยกไปตั้งรดย้ำบริเวณที่ผมต้องการครับ
แล้วจากนี้เราก็เอาเวลารดน้ำไปดูแลต้นไม้ดีกว่าครับ เรียกว่าเป็นการใช้เวลาให้คุ้มค่าอีกด้วยนะครับ การใช้ปริงเกอร์ช่วยรดน้ำต้นไม้แบบนี้
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555
วันนี้พาไปดูการตัดหญ้ากัน
ไม่รู้ว่าการตัดหญ้านี้ใครได้ให้ความสำคัญกับมันบ้างหรือปล่าว เพราะว่าไม่ค่อยเคยเห็นบทความเรื่องการตัดหญ้าในเวปให้เราได้อ่านกันเท่าไหร่ วันนี้เลยลองมาดูการตัดหญ้ากันครับ
หญ้าที่ไม่ได้ตัดเลยจะเป็นอย่างไร หญ้าที่ไม่ได้ตัดเลยสภาพจะแย่มากๆครับ เพราะว่าใบหญ้าจะยาว แล้วลำต้นของหญ้าก็จะชี้สูงขึ้นตามมาด้วยแล้วเวลาตัดหญ้าใหม่ๆเราก็จะเห็นสนามเป็นสีน้ำตาลเลยเพราะว่าไม่เหลือส่วนของใบที่เป็นสีเขียวอยู่เลยถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ไม่ต้องไปตกใจนะครับ หญ้าที่เราเห็นเป็นสีน้ำตาลนั้นเป็นเรื่องปรกติครับสำหรับสนามหญ้าที่ไม่ได้ตัดนานๆ รดน้ำไปเรื่อยๆสักอาทิตย์สองอาทิตย์เดี๋ยวเห็นเขียวสวยกว่าเดิมอีกครับ
หญ้าที่ตัดบ่อยๆจะเป็นอย่างไร หญ้าที่ได้รับการตัดบ่อยๆผมบอกได้เลยครับว่าสวยแน่นอนเพราะว่าหญ้าจะแตกใบใหม่ให้เราได้เห็นตลอดเวลา เวลาเช้าๆนี่เราจะเห็นสีเขียวอ่อนๆอมเหลืองสวยมากๆครับ แล้วการตัดหญ้าบ่อยๆก็จะทำให้เราตัดได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการตัดหญ้าแบบนานๆตัดทีครับ จะใช้เวลามากกว่าเยอะแล้วก็จะเหลือเศษหญ้าจำนวนมากอีกด้วยครับ
สำหรับสภาพหญ้าที่ตัดบ่อยๆใบก็จะหนาแน่นและมีลำต้นที่เรียบเกาะกันติดพื้นครับ เรียกว่ายิ่งตัดบ่อยเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้นครับ
เสริมเรื่องการรดน้ำสนามหญ้าให้อีกเรื่องนะครับ ผมได้ยินมาว่าถ้าเรารดน้ำมากสนามหญ้าเราก็จะเขียวมากแล้วก็ยาวเร็วด้วย แต่ถ้าหากว่าเราไม่รดน้ำแล้วปล่อยให้หญ้าเหลืองสักสองสามวัน ต้นหญ้าจะลงรากลึกมากขึ้นทำให้สนามหญ้าทนทานมากยิ่งขึ้นครับ อันนี้น่าทำนะครับยอมเหลืองสักนิดหน่อยแต่เเข็งแรงครับ
ป้ายกำกับ:
บทความทั้งหมด,
พูดคุยตามอารมณ์,
เรื่องสวน,
หญ้านวลน้อย
วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555
สวนที่กำลังจะแห้งเฉา
จากบทความที่แล้วผมได้เอาภาพของความสดใสสดชื่นมาคุยกันในเรื่องของสีสันในสวนแต่ว่าวันนี้ เรามาดูความแห้งเฉากันบ้าง มันเกิดจากผมเองแหละครับที่ไม่ค่อยมีเวลาและใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยช่วงนี้ต้นไม้ในสวนก็เลยมีสภาพแบบนี้นี่แหละครับ
หญ้าที่ค่อนข้างเหลืองสภาพแบบนี้ไม่น่าดูเลยผมยอมรับครับ ไม่ได้รดน้ำสม่ำเสมอ บางทีรดแล้วก็ไม่ได้รดไปเป็นอาทิตย์เลยก็มีครับบางช่วง หญ้ามันก็เลยเหลืองแบบนี้ครับ ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาผมจะรดแต่ต้นชาดัดกับโมกรอบๆมากกว่าครับเพราะว่าชาดัดเพิ่งจะลงเอาไว้รากยังไม่ค่อยเดินดี ก็กลัวจะแห้งตายไปก่อนเสียดายก็เลยรดแต่ชาดัดเลี้ยงนำ้เอาไว้ก่อนว่ากันอย่างนั้น
สังเกตได้ว่าหญ้าบริเวณใกล้ๆต้นชาดัดจะเขียวเข้มและยาวกว่าหญ้าที่อยู่กลางๆสนามค่อนข้างชัดครับ เพราะว่าตรงนั้นก็ได้อานิสงฆ์จากน้ำที่รดชาดัดไปด้วย นี่ดีไม่ดีถ้าผมกลับมารดน้ำสม่ำเสมออาทิตย์นึงก็อาจจะเห็นภาพสนามหญ้าเขียวแล้วหละครับผมว่า
จากเมื่อสองสามเดือนก่อนหน้านี้ที่หญ้าเขียว ชาดัดกำลังจะงามเป็นทรงแต่น้ำก็มาท่วมไปก่อน ชาดัดก็ต้องเอามาลงใหม่เริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อรอให้โตและสูงเป็นทรงอีกครั้ง ผมว่าตอนที่ชาดัดตัดเป็นทรงได้เมื่อไหร่ความเขียวชอุ่มก็จะเริ่มกลับมาอีกครั้งแน่นอนครับ ส่วนความแห้งเฉาของสนามหญ้าก็น่าจะรดน้ำแล้วหว่านปุ๋ยสักอาทิตย์คงได้เห็นภาพใหม่กันครับ
ที่หนักใจที่สุดน่าจะเป็นต้นโมกมากกว่าว่าทำไมตอนนี้ใบร่วงเยอะเหลือเกิน พยามรดน้ำอยู่หลายอาทิตย์ก็ยังไม่ค่อยจะดีขึ้นเท่าไหร่ครับ ไม่รู้ว่าหน้าหนาวมันผลัดใบหรือปล่าวก็ยังหาคำตอบอยู่เหมือนกัน
แต่เท่าที่รู้ข้อมูลเบื้องต้นคือต้นโมกชอบน้ำเยอะๆ
เอาไว้ยังไงเดี๋ยวจะหาข้อมูลเรื่องต้นโมกมาคุยกันต่อครับ
หญ้าที่ค่อนข้างเหลืองสภาพแบบนี้ไม่น่าดูเลยผมยอมรับครับ ไม่ได้รดน้ำสม่ำเสมอ บางทีรดแล้วก็ไม่ได้รดไปเป็นอาทิตย์เลยก็มีครับบางช่วง หญ้ามันก็เลยเหลืองแบบนี้ครับ ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาผมจะรดแต่ต้นชาดัดกับโมกรอบๆมากกว่าครับเพราะว่าชาดัดเพิ่งจะลงเอาไว้รากยังไม่ค่อยเดินดี ก็กลัวจะแห้งตายไปก่อนเสียดายก็เลยรดแต่ชาดัดเลี้ยงนำ้เอาไว้ก่อนว่ากันอย่างนั้น
สังเกตได้ว่าหญ้าบริเวณใกล้ๆต้นชาดัดจะเขียวเข้มและยาวกว่าหญ้าที่อยู่กลางๆสนามค่อนข้างชัดครับ เพราะว่าตรงนั้นก็ได้อานิสงฆ์จากน้ำที่รดชาดัดไปด้วย นี่ดีไม่ดีถ้าผมกลับมารดน้ำสม่ำเสมออาทิตย์นึงก็อาจจะเห็นภาพสนามหญ้าเขียวแล้วหละครับผมว่า
จากเมื่อสองสามเดือนก่อนหน้านี้ที่หญ้าเขียว ชาดัดกำลังจะงามเป็นทรงแต่น้ำก็มาท่วมไปก่อน ชาดัดก็ต้องเอามาลงใหม่เริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อรอให้โตและสูงเป็นทรงอีกครั้ง ผมว่าตอนที่ชาดัดตัดเป็นทรงได้เมื่อไหร่ความเขียวชอุ่มก็จะเริ่มกลับมาอีกครั้งแน่นอนครับ ส่วนความแห้งเฉาของสนามหญ้าก็น่าจะรดน้ำแล้วหว่านปุ๋ยสักอาทิตย์คงได้เห็นภาพใหม่กันครับ
ที่หนักใจที่สุดน่าจะเป็นต้นโมกมากกว่าว่าทำไมตอนนี้ใบร่วงเยอะเหลือเกิน พยามรดน้ำอยู่หลายอาทิตย์ก็ยังไม่ค่อยจะดีขึ้นเท่าไหร่ครับ ไม่รู้ว่าหน้าหนาวมันผลัดใบหรือปล่าวก็ยังหาคำตอบอยู่เหมือนกัน
แต่เท่าที่รู้ข้อมูลเบื้องต้นคือต้นโมกชอบน้ำเยอะๆ
เอาไว้ยังไงเดี๋ยวจะหาข้อมูลเรื่องต้นโมกมาคุยกันต่อครับ
วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555
ต้นไม้ที่ให้สีสันในสวน
วันนี้ผมอยากจะมาคุยเรื่องต้นไม้ที่ให้สีสันทำให้สวนของเราไม่เหงาครับ หลังจากที่เราพยามลงต้นไม้สีเขียวเพื่อเป็นแบรคกราวด์ในสวนเราเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว พอเขียวแล้วก็มาลงสีสันกันบ้างครับ
เมื่อพูดถึงสีสันในสวนหลายคนก็มองไปที่ดอกไม้กันก่อนจนบางครั้้งอาจจะลืมกันไปครับว่าดอกไม้ต้องการการดูแลดีดีกว่าไม้ที่ดูใบมาก และการออกดอกก็ใช้เวลาอีกถ้าดูแลไม่ดีก็ไม่มีดอกให้เราได้เห็นครับ ดังนั้นการใช้ไม้ใบที่มีสีสันสวยงามก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลมากมายนักครับ
สำหรับผมเองความรู้เรื่องต้นไม้ก็ไม่ได้มีมากมายไปกว่าเพื่อนๆหรอกนะครับ แต่มาคุยในฐานะคนที่ชอบปลูกต้นไม้ ชอบดูต้นไม้เท่านั้นครับ และก็หาต้นไม้สวยๆมาศึกษาเรื่อยๆ อยากจะเดินเล่นในสวนหรือว่าเปิดกระจกออกมาแล้วเห็นต้นไม้สวยๆที่เราปลูกอะครับ ตอนเช้าๆนึกภาพดูมันสดชื่นดี
สำหรับคนที่ชอบเที่ยวก็คงไม่ได้รู้สึกว่าอยากปลูกต้นไม้เท่าไหร่มั้งครับ เพราะว่าอย่างถ้าไปเที่ยวดอย ไปเที่ยวป่าก็น่าจะได้เห็นต้นไม้ ดอกไม้สวยๆจากธรรมชาติ คงมีความสุขมากๆเลยครับ แต่สำหรับผมก็คงได้แต่นั่งดูรูปถ่ายแล้วก็ต้นไม้สวยๆมาปลูกไว้ที่หน้าบ้านนี้แค่นี้แหละครับ
ยังไงสีสันในสวนก็อย่าลืมมองข้ามไม้ดูใบนะครับ อย่าง เทียนทอง หางนกยูง แซ่ม้า คริสติน่าต้นเล็กก็ได้ ลองๆไปเดินดูตลาดต้นไม้กันดูครับ แลวจะสบายใจขึ้น
เมื่อพูดถึงสีสันในสวนหลายคนก็มองไปที่ดอกไม้กันก่อนจนบางครั้้งอาจจะลืมกันไปครับว่าดอกไม้ต้องการการดูแลดีดีกว่าไม้ที่ดูใบมาก และการออกดอกก็ใช้เวลาอีกถ้าดูแลไม่ดีก็ไม่มีดอกให้เราได้เห็นครับ ดังนั้นการใช้ไม้ใบที่มีสีสันสวยงามก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลมากมายนักครับ
สำหรับผมเองความรู้เรื่องต้นไม้ก็ไม่ได้มีมากมายไปกว่าเพื่อนๆหรอกนะครับ แต่มาคุยในฐานะคนที่ชอบปลูกต้นไม้ ชอบดูต้นไม้เท่านั้นครับ และก็หาต้นไม้สวยๆมาศึกษาเรื่อยๆ อยากจะเดินเล่นในสวนหรือว่าเปิดกระจกออกมาแล้วเห็นต้นไม้สวยๆที่เราปลูกอะครับ ตอนเช้าๆนึกภาพดูมันสดชื่นดี
สำหรับคนที่ชอบเที่ยวก็คงไม่ได้รู้สึกว่าอยากปลูกต้นไม้เท่าไหร่มั้งครับ เพราะว่าอย่างถ้าไปเที่ยวดอย ไปเที่ยวป่าก็น่าจะได้เห็นต้นไม้ ดอกไม้สวยๆจากธรรมชาติ คงมีความสุขมากๆเลยครับ แต่สำหรับผมก็คงได้แต่นั่งดูรูปถ่ายแล้วก็ต้นไม้สวยๆมาปลูกไว้ที่หน้าบ้านนี้แค่นี้แหละครับ
ยังไงสีสันในสวนก็อย่าลืมมองข้ามไม้ดูใบนะครับ อย่าง เทียนทอง หางนกยูง แซ่ม้า คริสติน่าต้นเล็กก็ได้ ลองๆไปเดินดูตลาดต้นไม้กันดูครับ แลวจะสบายใจขึ้น
ป้ายกำกับ:
บทความทั้งหมด,
พูดคุยตามอารมณ์,
เรื่องต้นไม้,
เรื่องสวน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)