เดินเข้าไปดูใกล้ๆด้วยกันครับ สภาพการปูกระเบื้องในวันแรกสวยงามแบบนี้ครับไปเริ่มดูตั้งแต่รูปแรกกันเลยครับ
การปูกระเบื้องมันต้องแบบนี้ครับระดับต้องได้ไม่การแก้ในภายหลัง ผิวงานกระเบื้องสะอาดมีการเช็ดคราบปูนในเบื้องต้นเรียบร้อย
พื้นผิวที่แกะกระเบื้องออกเพราะได้ระดับสวยงาม เตรียมเซาะออกปูใหม่เพื่อความเนียบต่อไป
ลักษณะงานการปูก็เป็นระเบียบเรียบบร้อยไม่ทำให้สีหรือพื้นผิวกระเบื้องเสียหายแต่อย่างใด
ดูด้านข้างก็สวยงาม อยากจะบอกว่าหรูมากๆ
ดูด้านข้างอีกภาพครับสวยงามน่าประทับใจจริงๆ
ตั้งแต่เกิดมารู้สึกว่าคุ้มแล้วครับที่เจองานปูกระเบื้องที่คุณภาพแบบนี้ครับ
กระเบื้องที่ผมเลือกเป็นสี อังกฤษแบล็ค ว่างๆก็ลองไปเดินดูนะครับว่าหรูแค่ไหน แ่ต่ว่าถ้าดูจากภาพนี้ก็หรูสุดๆแล้ว
สรุปผลงานในการปูกระเบื้องในวันแรกผมอมยิ้มได้และมีความสุขใจดังรูปนี้ครับ
ผมซึ้งใจและอยากจะขอบคุณช่างมากๆในวันแรกที่ทำให้ผมมั่นใจในฝีมือผมขอยกนิ้วให้เลยครับ
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ตามดูปูกระเบื้อง
จริงๆแล้วไม่อยากจะดึงเรื่องงานก่อสร้างมาเกี่ยวกับเวปนี้เท่าไหร่นะครับเพราะว่าความตั้งใจจริงนั้นต้องการเน้นเรื่องสวนซะมากกว่า แต่ที่เอามาลงก็เพราะมีเรื่องคับข้องใจไม่น้อยครับเลยเอามาเล่าให้ฟังกัน
เป็นวันแรกในการปูครับ มีการรื้อมีการแก้ไขระดับเยอะมากจนรู้สึกน่าเป็นห่วง ผมไม่ขอพูดถึงว่าที่ไหนรายละเอียดอะไรนะครับเพราะต้องการเล่าเรื่องมากกว่าไม่ได้มาโจมตีใคร
ต้องเซาะปูนออกแกะกระเบื้องออกหลายรอบครับ
จนรู้สึกว่างานนี้จะออกมาเป็นยังไงในวันสุดท้าย น่าติดตามครับว่ากระเบื้องที่ผมเลือกเวลาเอามาปูแล้วมันจะสวยและได้บรรยากาศของธรรมชาติอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ แล้วจะเล่าให้ฟังต่อครับ
เป็นวันแรกในการปูครับ มีการรื้อมีการแก้ไขระดับเยอะมากจนรู้สึกน่าเป็นห่วง ผมไม่ขอพูดถึงว่าที่ไหนรายละเอียดอะไรนะครับเพราะต้องการเล่าเรื่องมากกว่าไม่ได้มาโจมตีใคร
ต้องเซาะปูนออกแกะกระเบื้องออกหลายรอบครับ
จนรู้สึกว่างานนี้จะออกมาเป็นยังไงในวันสุดท้าย น่าติดตามครับว่ากระเบื้องที่ผมเลือกเวลาเอามาปูแล้วมันจะสวยและได้บรรยากาศของธรรมชาติอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ แล้วจะเล่าให้ฟังต่อครับ
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554
สวนล่อนก
ไม่รู้ว่ามีใครสนใจเรื่องนี้กันบ้างหรือปล่าวกับการที่จะมีนกมาเล่นน้ำในอ่างที่เราได้เตรียมเอาไว้ให้มันโดยเฉพาะ และก็มีอาหารบ้างอะไรบ้างให้มันกิน เรียกว่าเป็นการเลี้ยงนกก็ว่าได้
เรื่่องของเรื่องนี้คือผมค้นหาเรื่องบ้านนกเพราะว่าอยากจะได้มาแต่งสวนและรู้สึกว่าอยากเห็นนกทำรังในบ้านนกที่เราเอามาแขวนไว้ไปๆมาๆก็เจอเรื่องนกฮัมมิ่งเบิร์ดก่อน แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่เห็นมันบินมากินน้ำหวานที่คนเตรียมและแขวนเอาไว้ให้ แต่แล้วก็มารู้ว่ามันมีแต่ที่สหรัฐเท่านั้น
ประเทศไทยเราที่น่าจะเรียกได้ว่านกฮัมมิ่งเบิร์ดเมืองไทยก็คือ นกกินปลี ซึ่งเท่าที่ผมดูและเคยเห็นที่บ้านเก่าก็สวยมากๆ ในที่สุดก็มาเจอเรื่องของคนที่ล่อนกเพื่อที่จะถ่ายรูป ยิ่งน่าสนใจมากๆเพราะว่าวิธีการดูเหมือนจะไม่ยากอะไรเลย เพียงแค่เตรียมอ่างน้ำใส่น้ำตื้นๆไม่ลึกเกิน2-3นิ้วเอาไว้ แล้วก็มีอาหาร พวกกล้วย ผลไม้ต่างๆ อะไรก็เอาไว้นกก็มากินแล้วก็เล่นน้ำแล้ว
ที่ว่ามานัี้นเป็นเรื่องของคนล่อนกเพื่อถ่ายภาพนะครับ ส่วนผมเองกำลังทดลองอยู่โดยมีอ่างน้ำอย่างในรูป(จานรองกระถาง) กับกล้วย ข้าวสุก องุ่น วันนี้เป็นวันแรกที่ผมทดลองครับไม่รู้ว่าจะมีนกมากิน หรือมาเล่นน้ำบ้างหรือปล่าว
เท่าที่เคยอ่านเรื่องของคนอื่นเห็นเขาว่ามันจะมาเยอะตอนหลังเที่ยงถึงบ่ายๆครับ และที่ผมสงสัยที่สุดก็คือบ้านผมไม่ได้อยู่ในชนบทที่ต้นไม้ครึ้มแล้วจะมีนกมาหรือไม่อันนี้เป็นเรื่องที่ผมกำลังพิสูจน์ให้่ทุกคนเห็น ไว้ได้ผลยังไงจะมาเล่าให้ฟังกันครับ ถ้าได้รูปก็จะเอามาให้ดูแน่นอนครับแต่คงไม่ใช่รูปที่สวยงามอะไรนะครับเพราะผมไม่ได้เล่นกล้อง ที่ทำก็เพราะอยากเห็นนกเล่นน้ำในอ่างเท่านั้นครับ
เรื่่องของเรื่องนี้คือผมค้นหาเรื่องบ้านนกเพราะว่าอยากจะได้มาแต่งสวนและรู้สึกว่าอยากเห็นนกทำรังในบ้านนกที่เราเอามาแขวนไว้ไปๆมาๆก็เจอเรื่องนกฮัมมิ่งเบิร์ดก่อน แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่เห็นมันบินมากินน้ำหวานที่คนเตรียมและแขวนเอาไว้ให้ แต่แล้วก็มารู้ว่ามันมีแต่ที่สหรัฐเท่านั้น
ประเทศไทยเราที่น่าจะเรียกได้ว่านกฮัมมิ่งเบิร์ดเมืองไทยก็คือ นกกินปลี ซึ่งเท่าที่ผมดูและเคยเห็นที่บ้านเก่าก็สวยมากๆ ในที่สุดก็มาเจอเรื่องของคนที่ล่อนกเพื่อที่จะถ่ายรูป ยิ่งน่าสนใจมากๆเพราะว่าวิธีการดูเหมือนจะไม่ยากอะไรเลย เพียงแค่เตรียมอ่างน้ำใส่น้ำตื้นๆไม่ลึกเกิน2-3นิ้วเอาไว้ แล้วก็มีอาหาร พวกกล้วย ผลไม้ต่างๆ อะไรก็เอาไว้นกก็มากินแล้วก็เล่นน้ำแล้ว
ที่ว่ามานัี้นเป็นเรื่องของคนล่อนกเพื่อถ่ายภาพนะครับ ส่วนผมเองกำลังทดลองอยู่โดยมีอ่างน้ำอย่างในรูป(จานรองกระถาง) กับกล้วย ข้าวสุก องุ่น วันนี้เป็นวันแรกที่ผมทดลองครับไม่รู้ว่าจะมีนกมากิน หรือมาเล่นน้ำบ้างหรือปล่าว
เท่าที่เคยอ่านเรื่องของคนอื่นเห็นเขาว่ามันจะมาเยอะตอนหลังเที่ยงถึงบ่ายๆครับ และที่ผมสงสัยที่สุดก็คือบ้านผมไม่ได้อยู่ในชนบทที่ต้นไม้ครึ้มแล้วจะมีนกมาหรือไม่อันนี้เป็นเรื่องที่ผมกำลังพิสูจน์ให้่ทุกคนเห็น ไว้ได้ผลยังไงจะมาเล่าให้ฟังกันครับ ถ้าได้รูปก็จะเอามาให้ดูแน่นอนครับแต่คงไม่ใช่รูปที่สวยงามอะไรนะครับเพราะผมไม่ได้เล่นกล้อง ที่ทำก็เพราะอยากเห็นนกเล่นน้ำในอ่างเท่านั้นครับ
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ต้นโมกเป็นไม้ริมรั้วดีที่สุดหรือไม่
แน่นอนว่าคำถามนี้ต้องรอคำตอบอีกหลายเดือนเพราะว่าผมเพิ่งจะลงต้นโมกต่อจากแถวไทรเกาหลีตลอดแนวทางขวาของบ้านจากที่เห็นในรูปนั่นแหละครับ
จะเห็นว่าโคนต้นโมกไม่มีกิ่งก้านอะไรเลยต้องรอหลายเดือนแน่นอนครับกว่าจะมีใบและกิ่งให้เห็น ตอนนี้ก็เลยเป็นสิ่งที่วัดเเละเทียบกันให้เห็นไปเลยครับว่าไทรเกาหลี หรือว่าโมกนั้นจะเหมาะเป็นต้นไม้ริมกำแพงมากน้อยกว่ากัน
แต่หากเทียบกันจริงๆแล้วก็พอจะมองเห็นนะครับว่าสวยไปคนละแบบ ทางไทรเกาหลีจะดูหนักแน่นดูแข็งแรง ส่วนโมกนั้นจะให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มดูเป็นธรรมชาติกว่า เอาไว้ยังไงเดี๋ยวลองมาดูหลังจากนี้อีกสองสามเดือนกันดูครับว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
จะเห็นว่าโคนต้นโมกไม่มีกิ่งก้านอะไรเลยต้องรอหลายเดือนแน่นอนครับกว่าจะมีใบและกิ่งให้เห็น ตอนนี้ก็เลยเป็นสิ่งที่วัดเเละเทียบกันให้เห็นไปเลยครับว่าไทรเกาหลี หรือว่าโมกนั้นจะเหมาะเป็นต้นไม้ริมกำแพงมากน้อยกว่ากัน
แต่หากเทียบกันจริงๆแล้วก็พอจะมองเห็นนะครับว่าสวยไปคนละแบบ ทางไทรเกาหลีจะดูหนักแน่นดูแข็งแรง ส่วนโมกนั้นจะให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มดูเป็นธรรมชาติกว่า เอาไว้ยังไงเดี๋ยวลองมาดูหลังจากนี้อีกสองสามเดือนกันดูครับว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ป้ายกำกับ:
ไทรเกาหลี,
บทความทั้งหมด,
เรื่องต้นไม้,
เรื่องสวน
วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554
แสงสียามค่ำ
ต้องบอกว่าไม่ได้ไปไหนเลยครับสำหรับผม อยู่แต่บ้านไม่เคยเที่ยวครับและก็ไม่รู้จะไปทำไม ว่างๆก็ปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆ มันมีความสุขแบบบอกไม่ถูกครับ ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายใหม่นะครับเป็นภาพที่ถ่ายเมื่อตอนที่มาอยู่ใหม่ๆครับ
หลายคนบอกว่าอยู่บ้านมันน่าเบื่อ อยู่บ้านมันไม่ได้เปิดหูเปิดตา ผมก็เชื่อครับว่ามันก็จริง แต่สำหรับผมคนที่เที่ยวไม่เป็นจะทำยังไงได้ละครับก็คนมันเป็นเเบบนี้
ผมเคยเดินไปหาสิ่งที่สวยงาม ไปทักทายสิ่งที่สวยงามแต่ว่าสิ่งสวยงามที่ผมเดินเข้าไปหานั้นไม่ยอมทักทายผม ไม่อยากจะคิดอะไรมากแต่บางครั้งนึกแล้วมันก็อดสงสารตัวเองไม่ได้ บางวันผมอยากจะตื่นมาแล้วเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ไม่คิดอะไร ไม่ซีเรียสอะไร ใช้ชีวิตสบายๆ เรื่อยๆ เที่ยวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายเหมือนใครๆ
หลายคนบอกว่าโชคชะตาชี้นำเราไม่ได้มันอยู่ที่ตัวเราเองที่จะเลือก ผมยอมรับว่าผมพยามทำสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตน้อยไปทั้งที่อยากทำมาก ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง
ผมไม่อยากจะหยุดเดินไปหาสิ่งสวยงามหรอก เมื่อไหร่ที่ผมแข็งแรงหรือฟ้าเปิดให้ผมเดินอีกครั้งผมก็จะพยามใหม่แน่นอน แต่ว่าตอนนี้มันหมดหนทางจริงๆ ไม่รู้สิ ผมอยากให้สิ่งสวยงามเดินเข้ามาหาผมบ้างสักครั้งก็ยังดี
หลายคนบอกว่าอยู่บ้านมันน่าเบื่อ อยู่บ้านมันไม่ได้เปิดหูเปิดตา ผมก็เชื่อครับว่ามันก็จริง แต่สำหรับผมคนที่เที่ยวไม่เป็นจะทำยังไงได้ละครับก็คนมันเป็นเเบบนี้
ผมเคยเดินไปหาสิ่งที่สวยงาม ไปทักทายสิ่งที่สวยงามแต่ว่าสิ่งสวยงามที่ผมเดินเข้าไปหานั้นไม่ยอมทักทายผม ไม่อยากจะคิดอะไรมากแต่บางครั้งนึกแล้วมันก็อดสงสารตัวเองไม่ได้ บางวันผมอยากจะตื่นมาแล้วเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ไม่คิดอะไร ไม่ซีเรียสอะไร ใช้ชีวิตสบายๆ เรื่อยๆ เที่ยวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายเหมือนใครๆ
หลายคนบอกว่าโชคชะตาชี้นำเราไม่ได้มันอยู่ที่ตัวเราเองที่จะเลือก ผมยอมรับว่าผมพยามทำสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตน้อยไปทั้งที่อยากทำมาก ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง
ผมไม่อยากจะหยุดเดินไปหาสิ่งสวยงามหรอก เมื่อไหร่ที่ผมแข็งแรงหรือฟ้าเปิดให้ผมเดินอีกครั้งผมก็จะพยามใหม่แน่นอน แต่ว่าตอนนี้มันหมดหนทางจริงๆ ไม่รู้สิ ผมอยากให้สิ่งสวยงามเดินเข้ามาหาผมบ้างสักครั้งก็ยังดี
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554
เดินท่อ PE + ปริงเกอร์ป๊อปอัพ
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นงานที่หนักนะครับแต่สำหรับผมแล้ว ไม่หนักครับเพราะว่าดินที่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นดินทรายเลยขุดได้ง่ายมาก อาจจะมีดินเหนียวปนบ้างนิดหน่อย
และที่สำคัญผมไม่ได้ฝังมันรอบบ้านแต่จะฝังเฉพาะเส้นที่ต้องฝังจริงๆเท่านั้นครับ เพราะว่าเส้นที่เป็นเส้นเมนหลักผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องฝังเพราะว่าต่อไปผมก็ปลูกต้นไม้บังหมดอยู่แล้ว และเวลาจะเพิ่มจุดรดน้ำหรือซ่อมแซมก็จะได้ทำได้ง่านด้วยครับ เมื่อผมคิดให้มันง่ายกำลังใจในการทำก็มาเยอะเลยครับ
ก่อนอื่นเลยก็ใช้เสียมเซาะหญ้าออกให้เป็นแผ่นโดยวิธีคือ ใช้เสียมหรือถ้าใครมีที่เซาะหญ้าจะดีมากเพราะมีหน้าจอบที่กว้างมากครับ สรุปคือใช้เสียมทิ่มลงไปเป็นแนวตรง และก็ทิ่มต่อไปเรื่อยๆให้เป็นเส้นตรงตามแนวที่เราจะฝังท่อครับ
เสร็จแล้วก็เอามือดึงหญ้าออก มันจะออกมาเป็นแผ่นๆเลยถ้าหากว่าเราเซาะตอนแรกได้ดี เอาวางไว้ปากหลุมโดยหงายด้านรากหญ้าที่ติดดินขึ้นไว้ ที่ให้เอาวางไว้แบบนี้เพื่อให้เป็นที่รองดินที่เราจะขุดขึ้นมาต่อไปครับเศษดินจะได้ไม่กลบหญ้าตรงที่ไม่ได้เกี่ยวข้องมากนัก
ต่อมาก็ขุดดินเลยครับ ของผมขุดลึกประมาณแค่สิบเซ็นแล้วก็ค่อยๆเอียงลึกขึ้นจนลึกสุดที่จุดที่เราจะเอาสปริงเกอร์ฝังครับ จะได้ไม่ต้องขุดมากเกินไป ส่วนดินก็เอากองทับหญ้าที่เราขุดวางไว้ตอนแรกนั่นแหละครับ
เสร็จแล้วก็เอาปริงเกอร์ลงไปทาบดูว่าลึกพอหรือไม่ แล้วเอาดินมากเอาไว้ พอได้ที่ก็เอาดินกลบเลยครับ
ตามด้วยหญ้าในตอนแรกที่เราเซาะหงายไว้ก็เอามาปิดแล้วกดๆ รดน้ำโชกๆครับเพื่อให้ดินที่ติดรากหญ้านั้นผสานกับดินที่เพิ่งกลบหลุมลงไปหญ้าจะได้ฟื้นเร็วๆขึ้นครับ
เสร็จแล้วก็ล้างเศษดินที่อยู่บนหญ้ารอบบให้หมดก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
งานแบบปราณีตแบบนี้ ผมอยากจะรู้จังว่าจะมีช่างที่เราจ้างเจ้าไหนบ้างที่จะทำปราณีตเท่าเราทำเองบ้างครับ จากประสบการณ์ที่จ้างช่างทำบ้านมาทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีปัญหาทั้งนั้นครับ ตอนนี้อะไรที่ผมทำเองได้ก็จะทำเองหมดแล้วครับ เพราะจ้างช่างมาทำอะไรผมเองต้องมาคอยแก้เองสุดท้ายทุกที
และที่สำคัญผมไม่ได้ฝังมันรอบบ้านแต่จะฝังเฉพาะเส้นที่ต้องฝังจริงๆเท่านั้นครับ เพราะว่าเส้นที่เป็นเส้นเมนหลักผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องฝังเพราะว่าต่อไปผมก็ปลูกต้นไม้บังหมดอยู่แล้ว และเวลาจะเพิ่มจุดรดน้ำหรือซ่อมแซมก็จะได้ทำได้ง่านด้วยครับ เมื่อผมคิดให้มันง่ายกำลังใจในการทำก็มาเยอะเลยครับ
ก่อนอื่นเลยก็ใช้เสียมเซาะหญ้าออกให้เป็นแผ่นโดยวิธีคือ ใช้เสียมหรือถ้าใครมีที่เซาะหญ้าจะดีมากเพราะมีหน้าจอบที่กว้างมากครับ สรุปคือใช้เสียมทิ่มลงไปเป็นแนวตรง และก็ทิ่มต่อไปเรื่อยๆให้เป็นเส้นตรงตามแนวที่เราจะฝังท่อครับ
เสร็จแล้วก็เอามือดึงหญ้าออก มันจะออกมาเป็นแผ่นๆเลยถ้าหากว่าเราเซาะตอนแรกได้ดี เอาวางไว้ปากหลุมโดยหงายด้านรากหญ้าที่ติดดินขึ้นไว้ ที่ให้เอาวางไว้แบบนี้เพื่อให้เป็นที่รองดินที่เราจะขุดขึ้นมาต่อไปครับเศษดินจะได้ไม่กลบหญ้าตรงที่ไม่ได้เกี่ยวข้องมากนัก
ต่อมาก็ขุดดินเลยครับ ของผมขุดลึกประมาณแค่สิบเซ็นแล้วก็ค่อยๆเอียงลึกขึ้นจนลึกสุดที่จุดที่เราจะเอาสปริงเกอร์ฝังครับ จะได้ไม่ต้องขุดมากเกินไป ส่วนดินก็เอากองทับหญ้าที่เราขุดวางไว้ตอนแรกนั่นแหละครับ
เสร็จแล้วก็เอาปริงเกอร์ลงไปทาบดูว่าลึกพอหรือไม่ แล้วเอาดินมากเอาไว้ พอได้ที่ก็เอาดินกลบเลยครับ
ตามด้วยหญ้าในตอนแรกที่เราเซาะหงายไว้ก็เอามาปิดแล้วกดๆ รดน้ำโชกๆครับเพื่อให้ดินที่ติดรากหญ้านั้นผสานกับดินที่เพิ่งกลบหลุมลงไปหญ้าจะได้ฟื้นเร็วๆขึ้นครับ
เสร็จแล้วก็ล้างเศษดินที่อยู่บนหญ้ารอบบให้หมดก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)