rss
Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สวัสดีปีใหม่ 2555 นะครับ 555 เลขนี้มีความสุขจัง

บอกได้เลยครับว่าปีใหม่ 2555 นี้เชื่อว่าหลายคนคงมีความสุขกันมากๆแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตามที่อยากได้ก็ขอให้สมหวังกันทุกๆคนเลยนะครับผม ส่วนผมเองก็หวังเหมือนทุกๆคนนั่นแหละครับ


ไม่รู้ทำไมนะครับเรามักจะได้ิยินเสมอว่าปีใหม่ปีหน้านี้ก็ขอให้คิดใหม่ทำใหม่อะไรที่ผิดพลาดไปแล้วก็ขอให้ผ่านและทิ้งไปในปีเก่านี้ เราจะได้ยินกันแบบนี้ทุกๆปีครับ ซึ่งบางคนก็ยังผิดยังพลาดเหมือนเดิมกันทุกๆปีเช่นกัน แต่ว่าทุกคนก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดแล้วผมเชื่อ

ปีใหม่นี้ผมเองก็อยากจะรวยนะแต่ว่ามันก็ต้องพยามกันต่อๆไปเรื่อยๆ สำหรับปีหน้าผมตั้งใจไว้ว่าจะทำแป้นบาสตั้งไว้ในสนามหน้าบ้านทำอิฐตัวหนอนเป็นพื้นไว้เล่นบาสแคบๆก็พอ จริงๆแล้วอันนี้เป็นความฝันอันนึงของผมนะที่อยากมีแป้นบาสและสนามเล็กๆของตัวเอง โดยเฉพาะแป้นต้องสวย

บางทีเราจัดสวนไปปลูกต้นไม้ไปเราจินตนาการสิ่งที่เราชอบไปด้วยก็ได้ว่าอย่างเช่น เราทำสวนดูแลต้นไม้ของเราให้สวยงามเวลาคนที่เรารักมาก็จะประทับใจและอยากมาดูต้นไม้ดอกไม้สวยๆที่บ้านเราอีกเป็นต้น แค่นี้เราก็ทำสวน ดูแลต้นไม้อย่างมีความสุขแล้ว

อาจจะพูดซ้ำกับใครแต่ก็อยากจะพูดนะครับว่า ปีใหม่นี้ขอให้สมหวังสิ่งที่อยากได้และขอให้รวยๆทุกคนเลยครับ

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แบบสวนสนามบาส 2

แน่นอนว่าองค์ประกอบหลักๆยังคงเหมือนเดิมครับ แต่จะเพิ่มอิฐตัวหนอนเข้ามา คิดว่านะครับ โดยจะเห็นได้ในรูปคือจุดที่ 1 ที่เป็นสีน้ำตาลครับ


จะเห็นว่ามันเป็นไอเดียที่ยังดูแย่มากๆอยู่ และจะสังเกตได้ว่าสนามบาสอะไรมันจะแคบแค่นั้นแล้วจะเล่นบาสได้ยังไง แน่นอนครับการเล่นบาสของผมไม่ได้ต้องการสนามที่ใหญ่โตอะไร เพราะว่าผมเล่นสไตล์เลี้ยง ผมมันที่ได้เลี้ยงแบบต่างๆมากกว่าการชู๊ตในระยะที่ไกลๆครับ

การเลี้ยงคล่องนั้นแทบจะสำคัญมากกว่าการชู๊ตซะอีก สำหรับความคิดผม ถ้าหากว่าเราได้แต่ชู๊ตแม่นแต่ว่าเลี้ยงไม่คล่องยังไงเราก็เล่นบาสไม่สนุกครับ

ตอนนี้หาต้นไม่้ไม่ได้เลยครับ น้ำท่วมต้นไม้ตายกันทั่วหน้า ส่วนใหญ่ร้านต้นไม้ก็จะเก็บต้นไม้ที่เหลือรอดเอาไว้ทำพันธุ์กันซะมากกว่า เท่าที่ถามๆร้านมานะครับ เค้าบอกว่าต้องรอสักสองสามเดือนนู่นนั่นแหละครับ ไม่งั้นผมก็คงต้องไปหาต้นไม้จากที่อื่นมาลงแทน...

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สนามหญ้าที่ฟื้นคืนชีพ

ต้องบอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้อะไรใหม่ๆเหมือนกันครับ หลักๆก็จะเป็นเรื่องจิตใจคนว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร ไม่เอาดีกว่ามาเรื่องต้นไม้กันครับ
และนี่เป็นสนามหญ้าเล็กๆที่ฟื้นคืนชีพครับ


ไม่อยากจะพูดอะไรมากนอกจากว่าการที่สนามหญ้าฟื้นกลับคืนมาได้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจุดนี้ตอนที่น้ำท่วมแดดยังส่องลงไปถึงทั้งวัน และน้ำก็ท่วมไม่นานมากเลยอาจจะทำให้มันยังทนไหวอยู่ แต่โซนอื่นๆอย่างที่เคยบอกว่าไปแล้วว่ามันโดนแดดน้อยก็เลยไม่รอดซะแต่ก็เป็นส่วนข้างบ้าน ถ้าดูภาพโดยรวมแล้วก็รอดมากกว่า 65 เปอร์เซ็นต์เลย

ถ้าถามว่าดีใจไหมก็ต้องบอกว่าดีใจครับที่ไม่ต้องไปเอาหญ้ามาลงใหม่ ไม่งั้นนี่เป็นเรื่องใหญ่เลย

ชาดัดที่ตายนั้นเดี๋ยวผมจะสรุปไว้ในเรื่องของชาดัดนะครับ ตอนนี้ผมพอจะรู้สาเหตุที่ชาดัดตายแล้วครับไงก็ติดตามเรื่องชาดัดต่อไปนะครับ

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

นกน้อยในสวน

ใครชอบบ้างครับให้มีนกมากินข้าวหน้าบ้านเราทุกวันๆ เชื่อไหมครับว่านี่ก็เป็นการทำบุญอีกแบบนึงที่เราก็มีความสุข นกก็มีอาหารกิน ผมว่าเป็นการทำบุญที่ได้ความสุขรวดเร็วมากๆครับ ใครว่างๆลองทำกันดูนะครับ


ความจริงแล้วมีนกกระจอกเยอะกว่านี้นะครับที่มากินข้าวกันจะมาเรื่อยๆทั้งวันครับ นอกจากนั้นก็จะมีนกแปลกๆมาบ้าง เรื่อยๆและจะมากันประจำครับ

ผมเคยอ่านของบางคนที่ล่อนกมาในสวนแล้วมีอ่างอาบน้ำให้นกด้วย ผมยังอินฉาอยู่เลยครับเพราะว่าอ่างอ่าบน้ำนกที่ผมเตรียมไว้ให้นกนั้นยังไม่มีนกมาเล่นน้ำเลยครับ รอมาเป็นเดือนก็ไม่มีนกเล่นเลยเดี๋ยวต้องลองเปลี่ยนที่วางบ้างแล้วครับ

อาจจะเป็นไปได้ว่ามันใกล้คนมากเกินไปก็เลยกลัวคนไม่กล้าเล่นเดี๊๋ยวจะลองเอาไปวางไกลๆให้มันดูปลอดภัยขึ้นดูสิว่ามันจะเล่นหรือไม่ ได้ผลอย่างไรเดี๋ยวมาอัพเดทให้ได้เห็นกันแน่นอนครับ

สนามหญ้าแบบนี้แก้ยาก

สวัสดีครับเรายังคงเกาะติดอยู่กับอาการของสนามหญ้าครับ อันนี้จะเป็นสนามหญ้าด้านข้างบ้านครับที่ก่อนน้ำท่วมนั้นไม่ได้ตัดให้สั้นครับเวลาน้ำท่วมแล้วลงใบที่แห้งตายมันก็จะติดกังๆอย่างที่เห็นครับ


แนวทางแก้ไขแบบไม่ต้องคิดมากก็คงจะต้องตัดทิ้งอย่างเดียวครับไม่ต้องคิดมากอะไร พอตัดแล้วก็ดูสภาพต่อไปว่าหญ้าตรงนั้นจะฟื้นหรือไม่ เพราะว่าพื้นสนามหญ้าโดยรวมๆแล้วส่วนใหญ่จะฟื้นครับยังไม่ตาย ถ้าหากว่าใครได้ตัดหญ้าไว้ก่อนที่น้ำจะท่วมผมว่าได้เปรียบมากๆครับ เพราะว่าเวลาน้ำลงนี่แทบจะไม่ต้องห่วงเลยว่าหญ้าจะแห้งกังแล้วลงมาทับหญ้าข้างล่างตายอีก

จากรูปที่เห็นผมตัดไปแล้วนะครับแต่ว่าหญ้าที่มันแห้งแล้วราบต่ำจริงๆนั้นตัดไม่ได้ครับเพราะมันติดดินเลย แน่นอนว่าแบบนี้ก็ต้องตัดมือละครับ เครื่องช่วยไม่ได้่ครับ สำหรับใครที่พอจะมีเวลาก็ต้องทำละครับกํรักที่จะดูแลสนามหญ้าให้เขียวสวยก็ต้องทำทุกอย่างละครับให้หญ้าเขียวดังใจ

ผมเชื่อว่าใครๆที่ชอบต้นไม้ สนามหญ้า ก็ต้องอยากเห็นสนามหญ้าของตัวเองเขียวสวยดูชุ่มชื้นสมบูรณ์ด้วยกันทั้งนั้น ผม คุณ หรือใครๆที่รักต้นไม้คงเข้าใจดีว่ามันมีความสุขแค่ไหนที่ได้เห็นต้นไม้ที่เราปลูกเขียวสวย ยังไงน้ำลงหมดแล้วก็มาเริ่มดูแลต้นไม้กันใหม่ครับ แล้วจะมาอัพเดทให้ได้ดูกันเรื่อยๆครับ

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สนามหญ้าหลังน้ำท่วม ฟื้นแล้ว

หญ้านวลน้อยทำให้ผมได้เซอร์ไพร์ครับมันกลับมาเขียวเร็วมากๆ หลังจากที่เราได้เห็นว่ามันเป็นสีเหลืองอมน้ำตาลเหมือนจะตายครับ แต่ตอนนี้เริ่มแตกใบใหม่เขียวสดแล้วครับ


คงเป็นโชคดีเหมือนกันครับที่น้ำท่วมสนามหญ้าไม่นานเกินไปนัก และก็ท่วมไม่สูงมาก ทำให้สนามหญ้ายังกลับมาได้ อย่างที่เห็นครับ แต่ก็มีบางจดที่เดินไปเหยียบบ่อยอย่างตรงหน้าบ้านน้ำก็มีหายไปเหมือนกันครับ
แต่จากสภาพนี้แล้วจ่าจะกลับมาเขียวทั้งหมดประมาณ 1 เดือนครับ

ขนาดผมดูแลเป็นอย่างดีน้ำลงแห้งดีแล้วก็ตัดหญ้าให้สั้นเพื่อให้มันได้รับแสงแดดเต็มๆ ก็ยังเขียวสู้บ้านเพื่อนบ้านในหมู่บ้านยังไม่ได้ ของเขานี่เขียวเต็มเหมือนเดิม คงเป็นเพราะว่าเขาย้ายออกไปอยู่ที่อื่นตอนน้ำท่วมครับ หญ้าก็เลยไม่ช้ำเหมือนบ้านผม

ยังไงก็ขอให้สนามหญ้าของเพื่อนๆที่ถูกน้ำท่วมกลับมาเขียวกันทุกๆคนเลยนะครับ ขอบคุณครับ

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สภาพชาดัดหลังน้ำท่วม 12 พฤศจิกายน 2554

หลังจากที่ได้บอกไปครับว่าพอน้ำแห้งชาดัดก็เหี่ยวเหมือนจะตายทันทีและเป็นเหมือนกันทั้งหมดแต่มีบางต้นเท่านั้นที่ยังคงรอดอยู่แต่ก็น้อยมากและสภาพก็ใกล้จะตายเต็มทีครับ


ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับว่ามันเป็นเพราะอะไรและจะต้องทำยังไงให้มันไม่ตาย เพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกครับที่ปลูกชาดัดและน้ำมาท่วม ซึ่งผมก็ใช้ทฤษฏีเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ทั่วไปที่ว่า ถ้ายอดยังไม่จมน้ำต้นไม้ก็จะยังคงไม่ตาย

แต่ที่มันแปลกก็คือตอนน้ำท่วมมันไม่ตายแต่พอน้ำลงมันตายครับ งานนี้ใครที่เป็นผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ ก็ไม่ได้คิดว่าปีหน้าน้ำจะมาท่วมอีกหรอกครับแต่อยากจะรู้สาเหตุว่ามันตายเพราะอะไรในเมื่อตอนน้ำท่วมมันยังไม่ตาย

ตอนนี้สรุปได้อย่างเดียวสำหรับชาดัดคือถ้าน้ำจะท่วมต้องขุดย้ายอย่างเดียวเท่านั้นครับ นอกนั้นคงต้องรอให้ผู้รู้และมีประสบการณ์มาตอบจริงๆครับ

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ต้นคริสดิน่า

มาถึงต้นคริสติน่ากันบ้างครับ ต้องบอกว่ายังอยู่ดี แม้ว่าสภาพกิ่งก้านจะระเกะระกะไปหมดก็ตาม แต่ของแบบนี้ก็อยู่ที่การเก็บกิ่งมัดกิ่งแล้วก็ตัดแต่งให้สวยงามครับ เชื่อว่าคริสติน่าต้นนี้ยังสามารถกับมาสวยงามได้อยู่แน่นอน


จะเห็นได้ว่าน้ำท่วมผ่านมาเกือบ 1 เดือนที่ไม่ได้ดูแลต้นคริสติน่าไม่ได้ตัดแต่งกิ่ง ไม่ได้ใส่ปุ๋ย ไม่ได้พรวนดิน ใบก็เลยเขียวสดและใบใหญ่เชียว ใบใหญ่จนกิ่งของมันอ่อนลงมาเลย จะสังเกตได้จากช่องว่างระหว่างลำต้นนั้นไม่ได้กิ่งหายหรือว่าไม่มีใบนะครับแต่อย่างที่บอกว่ากิ่งมันอ่อนแล้วใบมันใหญ่รับน้ำหนักไม่ไหวเลยตกลงมาทำให้เห็นช่องว่างครับ

แนวทางการแก้ไขก็คือค่อยๆรวบกิ่งตามจุดต่างๆให้อยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการ เชื่อว่าถ้าเรารวบกิ่งแล้วทรงของต้นก็จะกลับมาดีเหมือนเดิมแล้วครับ บางครั้งการปล่อยให้กิ่งของต้นยาวออกมาจากลำต้นมากเกินไปก็ทำให้กิ่งที่อ่อนๆของต้นคริสติน่าเป็นแบบนี้ได้ครับ

แนวทางที่สองก็คือการตัดแต่งกิ่งครับเพื่อลดน้ำหนักของกิ่ง กิ่งจะได้ไม่ตกลงมาครับ ถ้าหากว่าเราอยากเห็นใบคริสติน่าสีแดงๆเร็วๆก็ต้องขยันตัดแต่งครับ

ตอนนี้ผมกำลังจะเอาลงดินครับวางแผนไว้ว่าจะปลูกในแนวของแถวชาดัดแล้วตัดให้เป็นทรงเหลี่ยมสลับกับต้นชาดัด แต่ว่ากว่าจะเป็นภาพนั้นได้คงอีกเป็นเดือนครับเพราะว่าแถวชาดัดของผมตอนนีั้ตายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ต้องรอเอาชาดัดมาลงใหม่กันต่อไปอีก ไงคืบหน้ายังไงจะเอามาลงให้ดูกันครับ

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สวนน้ำที่เหลือรอดจากน้ำท่วมครับ

ตอนนี้ก็ยังไม่ได้จัดใหม่นะครับเพราะว่าน้ำเพิ่งจะลงไปเหลืองานเก็บนั่นเก็บนี่ก็ยุ่งๆครับ ไหนจะงานเข้าเรื่องเงินช็อตอีก ตอนนี้เครียดไปหมดครับ


รายการต้นไม้ในภาพนี้ก็จะมีดังนี้ครับ ที่บอกนี่เพราะว่าผมเคยเข้าไปในเวปคนอื่นมีแต่รูปแต่ไม่มีรายชื่อต้นไม้ให้ทราบก็เลยบอกครับว่ามีอะไรบ้าง

1.เสือโคร่ง(ใบใหญ่ๆอยู่ด้านหลังทางซ้าย)
2.ปาล์มไผ่
3.พลูด้างราชินี พลูด่างอื่นๆ
4.ช้อนเงินช้อนทอง(ต้นที่ดอกสีเหลืองๆ)
5.เตย
6.รวยอมตะ(ใบสีแดงๆ)
7.เฟิร์นขนนก
8.มะลิลา

จริงๆแล้วมีต้นไม้องค์ประกอบมากกว่านี้แต่ก็ตายไปบ้าง เหี่ยวไปบ้างก็เอาไปพักฟื้นก่อน ตอนนี้ก็ไม่ได้เอาสวยอะไรครับแค่แยกต้นไม้ดีต้นไม้ตายออกจากกันก่อน ต่อไปนี้คงต้องหารายละเอียดและดีไซด์สวนเล็กๆตรงจุดนี้ให้ดีกว่านี้ครับเพราะว่ามันรกมากกว่าจะน่ามอง...

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

โปรเจคสนามบาส

เรียกว่าตอนนี้ยังไม่ได้สรุปอะไรแน่นอนเลยครับว่าจะทำอะไรเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนหลังจากที่ตอนนี้สวนเล็กๆหน้าบ้านแห้งหมดแล้ว ก็มีหญ้าตายไปเยอะมากโดยเฉพาะด้านข้างบ้านตายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์


แน่นอนว่าจริงๆแล้วผมชอบเล่นบาสนะโดยเฉพาะถ้าใครได้ติดตามสวนภาคเก่าๆของผมจะเห็นว่าผมได้ทำแป้นบาสเล่นเอง ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้จะซื้อที่ไหนก็เลยทำเอง แต่ว่าตอนนี้รู้แหล่วแล้วครับว่าควรจะซื้อที่ไหนซึ่งราคาก็ไม่แพงด้วยครับ หมื่นเดียวเท่านั้น แป้นใสอคิลิคด้วยครับ

ตอนแรกที่ไม่ซื้ออีกเรื่องก็คือรู้สึกว่าแพงเคยเสิร์ทดูในเวปแต่เจอแต่แพงๆทั้งนั้นเลยครับ สามหมื่นสี่หมื่นบาทขึ้นทั้งนั้นตอนนั้นไม่ค่อยมีทุนทรัพย์ด้วยครับและก็ไม่ใช่ที่ของบ้านผมก็เลยไม่อยากจะซื้อแล้วก็เอาไปตั้งบ้านคนอื่นครับ

ถ้ามีโอกาสจะเอารูปแป้นบาสที่ผมเล็งไว้มาให้ดูครับว่าสวย น่าเล่นแค่ไหน บอกได้เลยครับว่าน่าเล่นมากๆ และที่สำคัญเหมาะกับสวนเล็กๆของผมมาก

ตอนนี้น้ำลงหมู่บ้านแห้งแล้วแต่ว่าทางที่จะไปบิ๊กซี โลตัสก็ยังไปไม่ได้ครับก็เลยต้องรอไปก่อนอ้ออาจจะมีคนถามว่าจะซื้อที่ไหนก็บอกไปเลยและกันครับว่าที่โรบินสันอยุธยา ตอนแรกผมไปดูเสื้อผ้า กระเป๋ากับแฟนครับแล้วก็เดินไปเดินมาเข้าแผนกกีฬาก็เจอของดีเข้าครับก็เจ้าแป้นบาสนี่แหละตั้งสง่างามอยู่ อยากได้ทันที และก็กลับมานั่งคิดมากอีกว่าจะเอาตั้งที่ไหนตรงไหนดีตัวเลือกเเรกและที่เป็นไปได้ก็จะเป็นดังภาพครับ

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ตัดหญ้าหลังน้ำท่วม

สวัสดีครับตอนนี้สวนแห้งแล้วสนามหญ้าผมไปดูบ้านอื่นเขาไม่ได้ทำอะไรเลยนะก็เห็นว่ากลับมาเขียวแล้ว เร็วมาก ดูจะรอดเยอะกว่าบ้านผมซะอีกของผมทางด้านหน้าบ้านน่าจะดายบ้างรอดบ้างไปดูกันครับ


ก่อนน้ำท่วมผมเสียดายเหมือนกันที่ไม่ตัดหญ้าให้มันสั้นๆไว้ก่อนเพราะว่าพอน้ำลงแล้วหญ้าที่ยาวๆมันจะเหี่ยวเน่าแล้วก็ลงมาบังหญ้าทำให้หญ้าใต้นั้นตายจะเห็นได้ตรงมุมล่างซ้ายของภาพบนนะครับ ผมเลยจัดการตัดหญ้าซะเลยไม่สนใจแล้ว เพราะว่าสภาพหญ้ามันรกๆเพราะว่าหญ้าตอนน้ำท่วมมันพยามจะสูงหนีน้ำเลยยาวเป็นหย่อมๆ ทั่วไปหมด


สภาพโดยรวมในส่วนหน้าบ้านก็เป็นอย่างที่เห็นครับ น่าจะ 75 เปอร์เซ็นต์ได้นะครับที่รอดสำหรับสนามหญ้า ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าคิดถูกหรือไม่ที่รีบตัดหญ้าทันที เพราะว่าส่วนบนของหญ้าที่ตัดไปมันเขียวครับ แต่ว่าพอตัดเสร็จปล้วมันก็จะเหลืองอย่างที่เห็นครับ ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าจะเขียวเต็มเหมือนเดิมเมื่อไหร่ แล้วตอนนี้ก็เป็นหน้าหนาวแดดไม่ค่อยดีครับ

พูดถึงชาดัดสักนิดครับ เพราะว่าในรูปมันเห็นชาดัดด้วยครับ เห็นได้ว่าตายแทบจะหมด น่าจะต้องเปลี่ยนใหม่จริงๆครับ ทางริมขวาก็มีไทรเกาหลีตายอยู่สี่ต้นไม่รู้ทำไมเหมือนกันทั้งๆที่ระหว่างต้นที่ตายต้นที่สองกับสามมีต้นนึงคั่นอยู่ตรงกลางไม่ตายครับ คงต้องศึกษากันต่อไปครับ

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

รูปภาพอัพเดทเพิ่มเติม

รูปภาพสมบูรณ์ขึ้นครับรูปนี้สมบูรณ์ขึ้นตรงส่วนหน้าบ้านจะมีพื้นที่ที่เป็นรูปตัวแอลครับ ส่วนนั้นผมว่าเป็นจุดที่จะปลูกต้นไม้ที่จะเป็นไฮไลท์ของสวนเลยทีเดียว


พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดจะเป็นโซน R ครับ เพราะว่าโซนนั้นจะได้แดดน้อยที่สุดในแต่ละวันเพราะว่ากำแพงสูงสองเมตรห้าสิบ พอแดดหลบกำแพงมาก็มาเจอบ้านครับไม่ต้องพูดถึงสูงสัก 20 กว่าเมตรได้ครับ แน่นอนว่าได้แดดน้อยความชื้นสูง พอโดนน้ำท่วมก็ไปเลยครับสนามหญ้าหายทั้งหมด

เทียนทองที่อยู่ริมสุดตัวแอลไม่เหลือครับ ส่วนเทียนทองที่อยู่ตรงโซน R ก็ไม่รอดเหมือนกันครับสรุปได้ว่าเทียนทองไปทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์

มาถึงชาดัดที่เป็นรูปตัวแอลที่อยู่ริมรั้วนั้นไม่แน่ใจครับตอนนี้ยังมีต้นที่เหลือรอดอยู่สัก 25 เปอร์เซ็นต์ได้ แต่ก็ต้องรอดูจนที่สุดครับว่าเหลือเท่าไหร่แน่ตอนนี้ก็ยังออกไปเอามาลงใหม่ไม่ได้ครับคงต้องรอน้ำลงอีกนานครับ

สนามหญ้าที่อยู่แถบแอลก็ไม่น่าจะรอดในตอนแรกแต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนเริ่มจะฟื้นครับ แน่นอนว่าผมก็ต้องการให้เขียวเหมือนเดิมแต่ว่าดูแล้วอาจจะรอดได้สัก 60-70 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าตามแผนการแล้วต่อไปผมจะเปลี่ยนเป็นสวนไม้กระถางแน่นอนครับ เพราะรู้สึกว่ามันสกปรกเวลาเดินผ่านไปมาครับ เลยว่าจะทำทางเดินตรงกลางค่อนข้างจะแน่นอน

จะเห็นว่าผมจะมีแถวไทรเกาหลีอยู่หน้าบ้าน รอให้หนาแล้วจะตัดอยู่พอตัดได้แล้วก็คงจะสวยขึ้นแน่นอนว่าจะตัดมานานก่อนน้ำท่วมแล้วแต่โดนน้ำท่วมซะก่อน ตอนนี้ก็เพิ่งจะยกออกไปครับก็รู้สึกว่าสูงขึ้นเยอะเลย ใบหนาขึ้นซะด้วยสิสงสันจะชอบแช่น้ำ

ส่วนโซนอื่นๆจะมาอัพเดทกันต่อไปครับ

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แผนการหลังน้ำลด

แผนการอันชั่วร้ายของผม ตอนนี้ต้องบอกว่ายังไม่มีจริงๆ รอให้น้ำท่วมลดลงจนแห้งก่อนแล้วก็ดูอาการต้นไม้ที่เหลือก่อนว่ามีอะไรเหลือให้ดูต่างหน้าบ้าง



ถ้าหากว่าเป็นต้นไม้แนวรั้วที่เป็นชาดัดเดิมที่ตอนนี้ตายเกือบหมดนั้นไม่แน่เหมือนกันว่าจะเปลี่ยนหรือปล่าว เพราะว่าใบชาดัดมันละเอียดดี แนวรั้วที่ใบเล็กละเอียดแบบชาดัดผมยังนึกไม่ออกว่ามีต้นอะไรบ้าง ตัวเลือกต่อมาก็จะเป็นต้นคริสติน่า นึกภาพดูแล้วน่าจะสวยเหมือนกันแม้ว่าจะใบใหญ่กว่าชาดัดมาก แต่คริสติน่ามีความอ่อนไหว มีความพลิ้วกว่าขาดัดและไทรเกาหลี โดยเฉพาะตอนใบใหม่เป็นสีแดงก็ดูสดใสดี แต่ก็ยังเป็นแค่ตัวเลือกอยู่ในตอนนี้

สำหรับโซนเทียนทองที่ตายหมดเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นก็อาจจะเปลี่ยนแนวไปเลย อาจจะเหลือไว้ในบางโซนเพื่อไว้ดึงความสว่างของสวนจะได้ไม่มืดเกินไป ซึ่งของเดิมนั้นเทียนทองของผมจะมีอยู่สองโซนคือโซนหน้าบ้านกับข้างบ้าน ซึ่งจุดที่เหลือไว้และว่าจะเอามาลงใหม่คงเป็นข้างบ้านเพราะว่าค่อนข้างจะมืดกว่าส่วนหน้าบ้านคงเปลี่ยนไปเล่นไม้ดอกให้เป็นแถวไปเลย

สนามหญ้าหน้าบ้านรอดน่าจะรอดนะ ส่วนข้างบ้านกับหลังบ้านไม่น่าจะเหลือ แต่คราวนี้อาจจะมีอิฐทางเดินมาร่วมบ้างเพราะรู้สึกเหมือนกันว่าเวลาฝนตกเดินไปรอบๆบ้านไปเก็บผ้าหรือเก็บของเท้าเื้ปื้อนแล้วก็ทำให้พื้นกระเบื้องโรงรถหรือที่อื่นๆมีเศษหญ้าเปรอะไปหมด เรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะทีเดียวสำหรับข้างบ้านทางฝั่งโรงจอดรถ

ต้นไม้ไฮไลท์มาถึงตรงนี้ผมยังไม่สรุปตายตัวเพราะว่า รอให้องค์ประกอบโดยรวมกลับเข้าที่ก่อนดีกว่า แล้วค่อยไปเดินดูตลาดต้นไม้ก็ไม่รับร้อนมากในส่วนของต้นไม้ไฮไลท์นี้

ไว้ปรับปรุงซ่อมแซมเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังเหมือนเดิมครับ

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เบื่อๆอยากออกทะเล

มีคำๆนึงครับที่เราพูดแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ยามที่เรารู้สึกเบื่อๆ เซ็งๆ เวลาที่เราไม่อยากจะนึกไม่อยากจะคิดอะไร เราจะรู้สึกว่าอยากออกทะเล อยากออกไปให้พ้นๆ ที่ที่เรากำลังเบื่อกำลังเซ็งอยู่ หรืออะไรก็ตามที่เราไม่อยากพบเจอไม่อยากเห็นไม่อยากเผชิญ


มองไปไกลสุดฟ้าไม่มี่ใครสักคน ทะเลอยู่ได้ยังไงกันนะ


เชื่อมั้ยครับว่าหากเวลาที่เราเครียดหรือว่าเบื่ออะไรก็ตามในชีวิตแล้วเราลองหาเพื่อนหรือว่าคนรู้ใจหรือว่าใครก็ได้ที่จะอยู่เป็นเพื่อนเราออกทะเล พาเราออกทะเล ที่ๆทำให้เรารู้สึกว่าอิสระ ที่ๆทำให้เราได้รู้สึกว่าโลกนี้กว้างมากๆ และยังมีที่ๆเหงาๆกว่าเรา เศร้าๆพร้อมๆเรา เคว้งคว้างเป็นเพื่อนเรา

ผมบอกได้เลยว่าถ้าหากใครกำลังอกหักหรือว่าเศร้าอยู่หากไปทะเลคนเดียวจะอันตรายมากๆ เพราะว่าทะเลจะทำให้คนที่เศร้าด้วยเรื่องความรักนี้ทรมาณมากขึ้นเป็นสองเท่า เพราะเขาจะยิ่งรู้สึกเหงารู้สึกเดียวดายดังนั้นคนที่เศร้าเรื่องความรักห้ามไปทะเลคนเดียวอย่างเด็ดขาด

การฟังเพลงเศร้ากับการเที่ยวทะเลมันเข้ากันมากเชื่อผม ลองนั่งเรื่อในทะเลแล้วเปิดเพลงเศร้าๆที่คุณชอบที่โดนใจคุณแล้วปล่อยอารมณ์ไปตามเพลงเพลงนั้น ปล่อยไปเลยปล่อยโฮได้ยิ่งดีแล้วคุณจะรู้สึกว่าการออกทะเลมันสุดๆได้จริงๆ

ทะเลทำให้คนได้ปลดปล่อยแต่ทะเลก็ทำให้คนยิ่งเจ็บยิ่งเศร้ามากขึ้นได้เหมือนกันเพราะทะเลนั้นคู่กับความเหงา ความเศร้า ทะเลไม่เคยบอกใครว่าเศร้าเรื่องอะไร เพียงแค่เราได้เห็นได้สัมผัสทะเลก็จะทำให้เราเข้าใจเองว่าทะเลเศร้าและเหงาแค่ไหน

บางครั้งทะเลก็โหดร้าย หากชีวิตนึงเราได้ไปทะเลกับคนที่เรารักมันคงเป็นความสุขที่สุด แต่หากชีวิตนึงเราไม่ได้มีโอกาสไปทะเลกับคนที่เรารักนั่นก็หมายความว่าเรากับทะเลจะเหงาเศร้าไปพร้อมๆกัน...

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สภาพสนามหญ้าข้างบ้าน

ดูจากสภาพแล้วไม่น่าจะรอด เพราะว่าด้านนี้เป็นด้านที่โดนแสงแดดวันนึงน้อยประมาณสัก 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นบางวันก็อาจจะไม่ถึงด้วยซ้ำ



ถ้าหากว่าลองนึกถึงหลักการของต้นไม้สิ่งที่ต้นไม้ต้องการก็จะมี อาหาร อากาศ แสงแดด สนามหญ้าด้านนี้เหมือนโดนตัดไปสองอย่างก็คือ แสงแดด กับอากาศ แล้วน้ำท่วมขังอยู่สองอาทิตย์ความเป็นไปได้ว่ามันไม่รอดก็มีสูงแน่นอน

ผมก็ลองดูเทียบกับทางหน้าบ้านที่หญ้ายังเขียวอยู่ก็มีความเป็นไปได้ว่าทางหน้าบ้านนั้นได้รับแดดทั้งวันเลยอาจจะมีเปอร์เซ็นต์รอดมากกว่าเพราะเห็นมันยังมีสีเขียวให้เห็นอยู่ค่อนข้างเยอะ

และที่อื่นๆที่ร่มไม่โดนแดดสภาพต้นหญ้าก็จะเป็นเหมือนๆกัน คือจะเน่า และมีสีออกสีน้ำตาลอ่อนไปถึงเข้ม ซึ่งที่เป็นสีน้ำตาลผมเชื่อว่ามันไม่รอดแน่นอนแล้วแน่ๆ

คงต้องรอลุ้นกันต่อไปเรื่อยๆครับวันนี้ก็เพิ่งจะเป็นวันแรกที่น้ำแห้งจากสนามหญ้า อีกวันหรือสองวันน่าจะเห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นมากกว่านี้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สนามหญ้าหลังน้ำท่วม

จะมีใครสักกี่คนครับที่ต้องเห็นภาพสนามหญ้าบ้านตัวเองโดนน้ำท่วมแล้วท่วมอีกทุกๆปี มีผมนี่แหละหนึ่งคนที่ต้องเห็นภาพแบบนี้้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่เว้นแต่ละปีเลย ปีนี้ก็ไม่เว้นเหมือนกัน

ทุกๆปีหญ้าในสนามหน้าบ้านจะถูกท่วมนานเป็นเดือนแต่ว่าที่นี่บ้านใหม่ที่คิดว่าน้ำไม่ท่วมแต่นย้ำก็ท่วมเพราะปีนี้หนักจริงๆ แต่ก็ท่วมทีหลังเขาก็ยังดี ถ่วงเวลาเอาไว้ให้สนามหญ้าได้เยอะเลย ก็เลยจมน้ำอยู่แค่เกือบสองอาทิตย์เท่านั้น ไปดูสภาพกัน


จะเห็นได้ชัดว่าหญ้าในส่วนที่อยู้กลางแดดจ้าๆยังคงมีสีเขียวอ่อนๆอยู่ แต่ก็อาจจะคลุมไปด้วยสีน้ำตาลอ่อนๆบ้างแต่โดยรวมๆแล้วถือว่าถ้ามีสีเขียวอยู่ก็ได้ลุ้นรอดแล้ว ซึ่งผมคิดว่าน่าจะรอดจริงๆลองดูกันครับ


ที่เห็นแห้งตายหมดก็คือชาดัดที่ปลูกมากว่าสามเดือนกำลังหนา กำลังสูงเลย ว่าจะทำเป็นรั้วชาดัดครับเลยต้องกลับมานับหนึ่งใหม่อีกเซ็งเรื่องนี้มากกว่าสนามหญ้าตายอีกครับ อยากเห็นภาพถสวยๆที่ต้องใช้เวลา แต่ว่าน้ำมาซะก่อน ถ้าหากว่าสูงกว่านี้สัก 5 เซนผมกว่าก็มีสิทธิรอดอยู่เหมือนกันแต่บังเอิญมันไม่เป็นแบบนั้นครับ

โดยรวมสนามหญ้าทั้งหมดน่าจะรอดไม่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ครับเพราะว่าหญ้าข้างบ้านเป็นส่วนที่โดนแดดน้อยอยู่แล้ว แล้วน้ำมาท่วมส่วนนี้ก็คงตายทั้งหมดแน่นอน ยังไงก็ต้องรอให้น้ำแห้งทั้งหมดแล้วให้ผึ่ีงแดดสักพักครับน่าจะเห็นได้ชัดกว่านี้ว่ายังรอดเหลืออีกเท่าไหร่

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

นี่แหละน้ำท่วมปีนี้

เดินลุยน้ำออกมาที่ถนนหน้าบ้านบ้างครับมาลองดูว่ามันลึกแค่ไหน ก็เลยเข่านิดๆได้ครับ ถือว่ารับได้นะความลึกเท่านี้ยังพอที่จะลุยน้ำออกไปทำธุระอะไรถ้าหากว่าจำเป็นได้ แต่ไม่ท่วมเลยมันก็จะดีที่สุด และหวังว่าคงจะไม่มีแล้วมั้งภาพแบบนี้


แน่นอนว่าไม่มีใครชอบน้ำท่วมบ้าน ผมคนนึงที่ชีวิตนี้เจอน้ำท่วมมาตั้งแต่เป็นเด็กเพราะว่าบ้านผมอยู่ริมคลอง แม่น้ำน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมถึงพื้นบ้านทุกปีตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวากว่าใต้ถุนจะแห้งก็เข้ามกราคมของอีกปีเลย ด้วยเหตุนี้ผมก็เลยอยากย้ายที่อยู่เพราะว่าผมอยากปลูกต้นไม้ ผมชอบต้นไม้ ชอบสนามหญ้า

ที่นี่ทำเลนี้น้ำไม่เคยท่วมมาก่อนครับจากการศึกษาภูมิศาสตร์มาเป็นอย่างดี ทำให้ผมมั่นใจและเลือกที่จะอยู่ที่นี่ และหวังว่าจะเป็นปีแรกในชีวิตที่ไม่ต้องเจอไม่ต้องใช้ชีวิตน้ำท่วม เหตุการณ์และสถานการณ์มันก็กำลังจะเป็นไปเหมือนที่ใจผมคิดครับ เมื่อบ้านเก่าของผมน้ำท่วมสูงและสูงกว่าทุกๆปี จนเริ่มทรงตัวและลดลงบ้างในบางวัน

แต่แล้วจู่ๆก็มีน้ำหลงทางหลงทุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ครับผ่านหลงมาทางบ้านผมกวาดเอานิคมสหรัตนคร นิคมโรจนะจมน้ำ ตอนที่โรจนะจมน้ำบ้านผมก็ยังไม่มีอะไร ไม่มีทีท่าว่าน้ำจะท่วมแต่สุดท้ายน้ำก็ไม่เว้นหมู่บ้านผมไว้ครับ

วันแรกที่หมู่บ้านกั้นน้ำไม่อยู่น้ำท่วมสูงวันเดียว 20 เซนติเมตรก็รับได้ครับเพราะว่ามันเร็วเพราะว่าหมู่บ้านกั้นเอาไว้ แต่มันก็สูงขึ้น สูงขึ้นไม่หยุดจนมาจ่อปากประตูบ้าน แค่ท่วมสนามหญ้า ท่วมต้นไม้ก็เจ็บจี๊ดแล้ว สุดท้ายก็เข้าบ้าน จี๊ดเข้าไปใหญ่ แล้วกำลังจะท่วมรถอีก ผมแทบจะอดไม่ไหว

ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่ารถเป็นอะไรหรือปล่าวว่าจะปล่อยให้แห้งสักพักนึงก่อน หวังเอาไว้ว่าปีหน้าและปีไหนๆคงไม่มีอีกแล้วนะแบบนี้...

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ชั้นล่างแห้งแล้ว

วันนี้ดีใจครับได้ล้างพื้นบ้านชั้นสักทีหลังจากที่จมมาสองอาทิตย์ได้สภาพความเสียหายตอนนี้เท่าที่เห็นก็จะมีสนิมขึ้นที่เหล็กดัด ชุดครัวพองนิดหน่อย ผนังที่เป็นสีขาวเป็นคราบน้ำ ส่วนเรื่องอื่นๆน่าจะมีอีกต้องรอดูตอนแห้งสนิทอีกทีนึงครับ


ที่ต้องแก้ก็คงจะมีเหล็กดัดเป็นอย่างแรกนี่แหละครับเพราะว่าสนิมแดงเลย เวลาไปโดนก็แดงติดมือครับ กลัวว่าม่านขาวเวลาปลิวลมไปโดนจะหมดกันครับ คงไม่อยากจะถอดมาซักแน่นอน แต่ว่าการซ่อมก็น่าจะยากพอดูเลยเพราะว่ามันติดพื้น เวลาขัดเวลาทาสีก็จะยากมากๆ เหนื่อยแน่ๆครับงานนี้


โชคยังดีนิดนึงครับตรงที่น้ำท่วมสูงขึ้นมาแค่บัวพื้นเท่านั้น เลยไม่เกิดคราบน้ำที่ผนัง แต่ต้องบอกว่าเกือบจะเลยบัวพื้นขึ้นไปเหมือนกันนะครับ แต่น้ำก็ขึ้นไปหยุดแค่นั้นแล้วก็ลงครับ สะใจนิดนึงตรงนี้


จะเห็นว่ามีโต๊ะทำงาน มีตู้เก็บของ มีโซฟา มีชั้นวางทีวีที่ผมใช้อิฐประสานหนุนเอาไว้ เพราะว่ายกไม่ไหวแล้วบางอย่างยกไหวแต่มันลำบากตอนเลี้ยวขึ้นบันไดครับ แล้วก็คิดว่าท่วมไม่นานเดี๋ยวยกลงอีกเหนื่อยอีกครับ เลยเทินหนุนไว้แบบนี้จะดีกว่า อาจจะล้างยากหลายรอบหน่อยแต่ก็คิดว่า วิธีนี้โอเคที่สุดแล้วครับสำหรับผม ไม่รู้ว่าบ้านเพื่่อนๆคนไหนเป็นอย่างไรบ้างแต่ก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีแล้วน้ำลงไวๆนะครับ เอาใจช่วยทุกๆคนครับ

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เกือบไปแล้ว

ช่วงนี้น้ำลงแล้วครับ รถผมกับรถเพื่อนเกือบไม่รอดครับระฆังช่วยไว้พอดิบพอดีเลย ดูสภาพจากรูปเลยครับว่าจวนเจียนแค่ไหน


รถเพื่อนผมหน้าทิ่มลงน้ำห้องเครื่องเลยต่ำ น้ำมาจ่อเครื่องแล้ว ส่วนรถผมน้ำเข้าไปในท่อแล้วแต่ว่าน่าจะยังไม่ท่วมห้องเครื่องเพราะว่าหน้ารถผมเอากระสอบทรายหนุนล้อให้หน้ายกไว้ คือว่าก็คงไม่เป็นอะไร เรียกว่าพอน้ำแห้งสิ่งที่ต้องลุ้นคือว่ารถผมจะเสียหรือไม่แต่ถ้าคิดเอาเองตามความเป็นจริงแล้วคิดว่าไม่เสียแน่นอน

อาจจะลุ้นกันเหนื่อยหน่อยแต่ก็น่าจะรอดแล้วกับน้ำท่วมปีนี้ ปีที่หนักสุดๆสำหรับประเทศไทยและทุกคนที่เจอน้ำท่วมไม่รู้ว่าปีหน้าจะมาแบบนี้อีกหรือปล่าว ไม่อยากจะเจอแบบนี้อีกแล้วอะ กลัวรถพัง ต้นไม้ตาย ราคาอาจจะไม่ได้แพงอะไรสำหรับต้นไม้แต่มันเสียเวลาไง ต้นไม้ต้องใช้เวลากว่าจะโตกว่าจะเป็นพุ่มสวย ไม่ได้ซื้อมาแล้วสวยได้เลยซะเมื่อไหร่

หวังว่าจะไม่เจอน้ำท่วมแบบนี้อีกนะหวังว่าอย่างนั้น เอาไว้ลุยสวนกันใหม่หลังน้ำลงละกันครับ

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผลงานตู้อบ เมล็ดต้นดาวเรือง

ยังไม่ได้ปลูกต้นดอกไม้อะไรเลยครับผม เน้นไปที่ต้นไม้ที่เป็นแบ็คกราวน์ก่อนทั้งหมด วันนี้เลยเริ่มปลูกดอกไม้กันบ้างครับ เพาะจากเมล็ดเอาต้นไม้ง่ายๆก่อนคือดาวเรืองครับ จากรูปเป็นผลงาน 3 วันในการเข้าตู้อบครับ

ดูภายนอกจะเห็นมีไอน้ำเกาะภายในแสดงว่ามีความชื้น เก็บความชื้นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ


พอเปิดออกมาก็เป็นแบบนี้ครับ คงต้องรออีกสักหน่อยก่อนจะย้ายลงกระถางต่อครับ กลัวว่าย้ายออกไปตอนนี้จะไม่รอดครับ

ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเลือกดอกไม้อะไรสวยๆที่มีต้นขนาดกลางดี แต่รู้สึกว่าอยากได้ต้นที่ดอกนั้นมีน้ำหวานด้วย นึกอะไรไม่ออกเลยนอกจากต้นเข็ม เดี๋ยวต้องไปหาข้อมูลเพิ่มก่อนแล้ว ต่อไปนี้เราจะได้เห็นสีสันของดอกไม้กันบ้างแล้วละครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ดูการเก็บงาน(ติดตั้งแอร์)

ทำไมมาตรฐานของเรามันเป็นแบบนี้ครับ บริษัทห้างหุ้นส่วน หรือ หจก.ต่างๆ ที่รับติดตั้งแอร์ ซ่อมแอร์ล้างแอร์ไม่รู้ที่อื่นจะเป็นแบบนี้บ้างหรือปล่าว

จริงๆแล้วผมมั่นใจนะครับว่ายิ่งเป็นร้านเล็กๆยิ่งตั้งใจทำเรื่องการเก็บงานก็คิดว่าไม่น่าจะเลวร้ายอะไรแต่มาดูกันครับ เอาแค่จุดต่อไฟหลังบ้านก็พอครับ

ดูการต่อ เขาดันไปเข้าด้านบนก็เลยตัดกรอบฝาครอบซะเละเลย แบบนี้้เวลาฝนสาดก็เข้าสิครับไฟช๊อตแน่นอน ผมเลยต้องรื้อออกมาดูว่าข้างในชุ่ยแค่ไหน

เอาฝาครอบมาดูใกล้ๆรู้สึกเซ็งมากครับ ของผมใหม่ๆแท้ๆ มันทำอะไรของมันถึงได้เ็ป็นแบบนี้ ปรกติฝาครอบนี้จะไม่มีรูนะครับมันก็ดันเจาะรูยึดน็อตแล้วก็เจาะผิดเจาะถูกอีก โอ้ยไม่อยากจะบรรยายเพราะมันเห็นกันอยู่

สุดท้ายแล้วผมก็ต้องมาต่อสายไฟใหม่แล้วก็เอาซิลิโคนสีขาวมาอุดรูต่างๆที่มันทำเอาไว้ซะงามหน้า ไม่รู้จริงๆว่าเปิดร้านมาได้ยังไง ผลงานห่วยขนาดนี้ 


ส่วนเรื่องเจาะไม่ต้องพูดถึงครับ ผนังเป็นรูจนสอดมือเข้าไปได้อีกข้างนึง ปวดหัวจริงๆ นี่มันรับจ้างติดตั้งแอร์หรือว่ารับจ้างพังบ้านกันเเน่นะ

มาดูน้ำในบ้านกันบ้าง

มันน่าตกใจไม่หายครับเมื่อน้ำท่วมบ้านที่ผมเพิ่งจะซื้อเพิ่งจะย้ายมาอยู่ไม่ถึงปีและก็เป็นปีแรกที่หนีน้ำท่วมมาจากบ้านเก่า และก็ประเดิมการหนีน้ำท่วมแบบนี้เลยครับ


สุดยอดครับ ผมหมดปัญญาจะหนีแล้วครับไม่มีเงินแล้ว ผมทำเต็มที่แล้วครับ จะเห็นว่ารูปแรกเป็นโต๊ะทำงานผมผมดสภาพ ชั้นวางทีวี และทุกอย่างอยู่กับก้อนอิฐ ส่วนโซฟาก็ซ้อนอยู่บนชั้นวางทีวีอีกที ไม่รู้ว่าบัวพื้นจะพังหรือปล่าวเรื่องใหญ่เหมือนกัน


ประตูห้องเก็บของผมถอดเก็บไว้เพราะกลัวว่าจะโดนน้ำแล้วพังครับ สภาพบันไดตอนนี้กลายเป็นท่าน้ำไปแล้ว ช่างจี๊ดใจสุดๆ ลงซะทีเหอะบัวจะพองน้ำพังหมดแล้ว


สภาพหน้าบ้านครับหายซ่า หมดสภาพ พ่ายแพ้หมดรูป ดีที่ต้นไม้ผมลงไว้รากน่าจะลงลึกแล้วนะครับเลยยังทนได้อยู่ แต่ชาดัดเริ่มจมน้ำเยอะแล้วถ้าตายก็เสียดายมากๆครับเพราะว่าใช้เวลาเ็ป็นเืดือนกว่าจะสูงได้เท่านี้ ตอนนี้ผ่านมา 1 อาทิตย์ได้แล้วครับ น่าเป็นห่วงชาดัดที่สุดตอนนี้

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สวนในน้ำ

ตอนนี้น้ำท่วมไปทั่วทุกหัวระแหงเลยครับมองไปทางไหนก็เป็นทะเลสาบ เวลาลมแรงๆนี่เย็นเหมือนทะเลได้บรรยากาศไปอีกแบบเหมือนกัน


เรื่องต้นไม้ เรื่องสวนของผมตอนนี้ก็เลยต้องหยุดไปโดยปริยาย แต่ตอนที่ผมขนต้นไม้หนีน้ำก็รู้สึกเหมือนกันว่าเหมือนกับกำลังจัดสวนในน้ำเลย เพราะว่าผมอาศัยอิฐประสานรองหนุนกระถางต้นไม้เอาไว้ให้สูงพ้นน้ำ แต่ว่าหนุนไปก็ต้องหนุนเพิ่มอีก เพราะว่าน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ จนหนุนไม่ไหว ก้นกระถางแช่น้ำไปแล้ว

น้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆในการปลูกต้นไม้แต่ตอนนี้ไม่อยากเห็นน้ำเลย ต้นไม้ของผมที่อยู่ในความเสี่ยงก็จะมีไทรเกาหลีที่จมน้ำอยู่ไม่ได้เอาออกจากดินเพราะว่าเอาออกแล้วก็คงไม่รู้จะเอาหนีน้ำไปไว้ไหน เพราะว่าเยอะมาก


แล้วไทรเกาหลีถ้าออกอาการจะรู้เลยเพราะว่าใบจะเหลือง ไทรเกาหลีไม่ชอบน้ำมากแต่ว่าตอนนี้จมน้ำแช่น้ำมาเกือบอาทิตย์แล้ว ของผมยังไม่ออกอาการเท่าไหร่แต่ก็มีเริ่มใบเหลืองแล้วนิดหน่อย ตอนนี้น้ำเริ่มลดลงวันละครึ่งเซน ไม่รู้ว่าไทรเกาหลีจะรอดหรือเปล่า ส่วนโมกคงไม่มีปัญหา

ก็คงต้องรอดูรอลุ้นกันต่อไปครับสวนในน้ำของผม

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สุดท้ายก็หนีไม่รอด

ลุ้นกันจนตัวโก่งครับกับน้ำท่วมปีนี้ สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดและไม่คิดว่ามันจะเกิดก็เกิดจนได้ครับ เืมื่อการหนีน้ำของผมครั้งนี้ โดนตอกย้ำอย่างไม่มีเยื่อใยครับ


ไม่อยากจะบอกและไม่อาจที่จะอธิบายได้ครับว่าเจ็บปวดใจแค่ไหน เพราะว่าผมเพิ่งจะซื้อบ้านใหม่ อยู่มาได้ประมาณสี่เดือนกำลังเริ่มจัดสวน กำลังเขียวสวย ปรากฏว่าน้ำท่วมซะอย่างงั้น ใครที่ติดตามเรื่องราวสวนของผมก็คงจะรู้นะครับว่าผมหนีน้ำมาจากบ้านเก่าเพราะว่าน้ำท่วมทุกปีปลูกต้นไม้ไม่ทันจะโตก็ตาย

จนผมซื้อบ้านใหม่มาอยู่ที่ที่ไม่เคยท่วมมาก่อนแต่ปีนี้เหมือนกับว่าน้ำยังตามมาหลอกหลอนผม ไม่ยอมให้ผมปลูกต้นไม้ ไม่ยอมให้ผมรอด แล้วแบบนี้ผมจะหนีไปไหนได้อีกละครับในเมื่อผมไม่มีตังจะซื้อบ้านใหม่แล้ว หรือว่าผมจะไม่มีโอกาสได้ปลูกต้นไม้อย่างสงบๆเหมือนอย่างใครๆเขา

คงต้องรอลุ้นกันครับว่าปีหน้าและปีต่อๆไปน้ำจะท่วมซ้ำเติมกันแบบนี้อีกหรือไม่ อย่างไร ผมตอนนี้เรียกว่าหมดอะไรตายอยากแล้วครับ ไม่อยากจะทำอะไรแล้ว คงต้องทำใจให้ยอมรับได้อีกสักพักนึง

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

จะหนีน้ำรอดหรือไม่

ตอนนี้น้ำท่วมอยุธยาแทบจะทุกตารางนิ้วแล้ว ไม่น่าเชื่อนะว่าปีนี้ผมซื้อบ้านใหม่มาอยู่ในที่ๆน้ำไม่น่าจะท่วมไม่น่าจะมาใกล้แต่ว่าวันนี้ มันตามมาราวีผมถึงที่อีกครั้ง

เดิมทีผมอยู่บ้านที่อำเภอเสนา น้ำท่วมสูงทุกปีไม่ต้องพูดถึง และท่วมอยู่นานครึ่งปีตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงปลายธันวาหรือต้นมกราของทุกๆปี โดยที่ไม่มีใครรู้ แน่นอนคนที่ชอบปลูกต้นไม้ชอบอยู่กับต้นไม้จะทนอยู่ได้ยังไงก็เลยซื้อบ้านใหม่หนีน้ำมาเลย

วันนี้น้ำยังไม่ท่วมบ้านผมที่ซื้อใหม่แต่ค่อยๆคืบคลานมากดดันผมเรื่อยๆ จนตอนนี้หมู่บ้านที่ผมอยู่คนหนีไปอยู่ที่อื่นกันเกือบหมดแล้ว อยากจะบอกว่าเหมือนกับน้ำอยากจะตามผมมาท่วมต้นไม้ที่ผมปลูกสนามหญ้าที่ผมดูแล

ผมกับน้ำคงเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่ชาติก่อนละมั้งสงสัย ยังไงตอนนี้ผมก็ยังลุ้นอยู่ว่าหมู่บ้านที่ผมอยู่ตอนนี้เหมือนเกาะนี้จะรอดน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ได้หรือไม่

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สปริงเกอร์แบบป๊อปอัพ ดูกันอย่างละเอียด

ต่อจากบทความที่แล้วนะครับที่ผมซื้อมาด้วยอีกอย่างก็คือสปริงเกอร์แบบป๊อปอัพตัวนี้ครับ ราคา 189 บาท มาดูอย่างละเอียดก่อนครับ ก่อนที่ผมจะบอกว่าดีหรือไม่ดีั

รูปด้านบนครับ


รูปด้านข้าง

รูปด้านล่างของปริงเกอร์เป็นเกลียวในขนาด 1/2 หรือ 2 หุน

คราวนี้ผมจะถอดฝาด้านบนออกนะครับผม เราจะดูส่วนประกอบข้างในกัน

ค่อนข้างเข้าใจง่ายนะครับคือมีสปริงไว้เวลาดีดหัวสปริงเกอร์กลับลงมาเมื่อไม่มีแรงดันน้ำ

อีกส่วนนึงไม่มีอะไรครับ

ความแข็งของสปริงก็ไม่มากครับถือว่ากำลังดีเลย ไม่อ่อนหรือว่าแข็งเกินไป

ลักษณะส่วนบนที่จะป๊อปอัพขึ้นเวลาจ่ายน้ำครับ

จากการทดลองจ่ายน้ำให้กับสปริงเกอร์ป๊อปอัพรุ่นนี้ Nelson 17 Man 25-360 ผมรู้สึกว่าไม่ดีครับเพราะว่าน้ำจะกระจายออกด้านข้างตรงบริเวณที่ใกล้ๆกับหัวสปริงเกอร์จะไม่ค่อยได้น้ำครับ เพราะว่าน้ำถูกฉีดไปไกลจากตัวสปริงเกอร์ ผมคิดว่าถ้าใช้กับสนามหญ้าผมคงต้องซื้อตัวใหม่แน่ๆครับตัวนี้คงไม่เวิร์ค ลองไปดูครับว่ามันฉีดน้ำแบบไหน



ตอนนี้คงต้องไปศึกษาเรื่องสปริงเกอร์ใหม่แล้วครับ

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หัวมินิสเปรย์

สวัสดีครับวันนี้เรามาดูกันต่อ อย่างที่บอกไปนะครับว่าผมซื้อชุดหัวฉีดสเปรย์มา แล้วก็ซื้อหัวฉีดมินิสเปรย์มาด้วย 2 แบบ คือแบบ 90 องศา กับ 180 องศา ราคาก็ไม่แพงครับถุงละ 10 บาท มี10 ตัว ลองไปดูรูปกันครับ


มาดูให้ชัดๆครับตัวนี้เป็น 90 องศาครับ

ต่อมาก็เป็นแบบ 180 องศาครับ

ที่ผมซื้อมาก็เพราะว่าเผื่อเอาไว้ก่อนครับ ตอนนี้ยังไม่แน่นอนว่าผมจะเดินระบบสปริงเกอร์ในสนามอย่างไร จะใช้มินิสเปรย์หรือว่าจะเป็นสปริงเกอร์แบบป๊อปอัพนั้นตอนนี้กำลังทดลองอยู่ครับ

อันนี้เป็นรูปของหัวมินิสเปรย์แบบต่างๆครับก็จะมี 360 องศา 180 องศา 90 องศา ตามลำดับครับแบ้วแต่การติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ

และตอนต่อไปมาดูสปริงเกอร์แบบป๊อบอัพกันครับ

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

มะลิลา กับ กิ้งก่า

เคยคิดถึงต้นไม้อะไรบ้างไหมครับที่สามารถให้ดอกหอมๆ กับเราได้บ้าง ผมว่าผมเองนี่แหละที่นึกไม่ออกว่ามีต้นอะไรบ้าง ดอกไม้อะไรบ้าง นอกจากต้นมะลินี่แหละ


นอกจากจะหอมแล้วยังทำให้สดชื่นได้ดีด้วย เรียกว่าเวลาเหนื่อยๆมาถ้าได้กลิ่นของดอกมะลิก็จะช่วยให้ผ่อนคลายได้มากเลยครับและไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือปล่าวเพราะว่าพอปลูกต้นมะลิในบ้านก็เจอเจ้าตัวนี้ครับ


เรียกว่ามาทำให้ระบบนิเวศน์ของบ้านดูดีขึ้นมาทันทีเลยครับ ไม่รู้ว่ามันรู้สึกว่าบ้านนี้ดูรกๆหรือปล่าวเลยย้ายเข้ามาอยู่ ต้นมะลิต้นนี้เป็นมะลิลาที่ร้อยพวงมาลัยครับคขายบอกว่าอย่างนั้นนะครับเป็นต้นที่เจ้าของร้านแถมให้มาครับ ไม่ได้ซื้อนะ


อยากเห็นดอกมันเร็วๆเหมือนกันครับคงต้องรออีกสักพัก ถึงตอนนั้นคงหอม สวย สดชื่นน่าดูไว้มีดอกแล้วจะมาอัพเดทให้ดูกันครับ